รักไม่รับจ้าง – ตอนที่ 2

Share

นนท์

วันนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นวันที่ผมเหนื่อยที่สุดในชีวิต สภาพผมตอนนี้เปียกโชกเหมือนลูกนกตกน้ำ พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะเกียกตะกายจนบินกลับรังได้สำเร็จ วันนี้ตั้งแต่เช้าผมออกไปขับรถส่งอาหารทั้งวัน ซึ่งผมน่าจะวิ่งรับได้อีก 2-3 ออเดอร์ ถ้าฝนไม่ตกหนักจนอันตรายเกินกว่าจะขับมอไซด์ และทำผมเปียกทั้งตัวยันกางเกงใน

ผมกลับมาถึงห้องเช่าขนาด 23 ตารางเมตร รีบตรงไปยังห้องน้ำทันที แล้วถอดเสื้อผ้าที่เปียกออกเตรียมเอาไปซัก ผมคงต้องรีบอาบน้ำทันที เพราะกลัวว่าน้ำฝนในเมืองจะไม่สะอาดแล้วทำให้ไม่สบายเอา ผมไม่อยากป่วยช่วงนี้เพราะใกล้เปิดเทอมแล้ว

ผมชื่อ นนท์ ทักษะโยธิน ชื่อเล่นชื่อนนท์เหมือนชื่อจริงเลยครับ พรุ่งนี้ผมจะได้ใช้ชีวิตการเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์อย่างเต็มตัวเป็นวันแรก สาเหตุที่เลือกเรียนสาขานี้เพราะผมมองไปถึงอนาคตด้านการงาน ผมมีความคิดว่าเทคโนโลยีทำให้ช่องว่างทางสังคมแคบลง หมายความว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีสถานะอย่างไรในสังคม จะยากดีมีจน ขอแค่ใช้เทคโนโลยีเป็น มันจะสามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณให้รุ่งโรจน์ได้ ผมฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้มีโอกาสทำงานในบริษัทชื่อดังสักแห่งในซิลิคอนวัลเลย์ อาจจะเป็นเฟซบุ๊ก กูเกิ้ล แอปเปิ้ล หรือไมโครซอฟต์ก็ได้

ความฝันนี้ของผมชัดเจนตั้งแต่เริ่มขึ้น ม.ปลาย การจะเข้าทำงานบริษัทเหล่านั้นได้ ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษจำเป็นมาก ผมจึงเริ่มเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ซื้อหนังสือมาอ่าน ดูคลิปสอนในยูทูบ วิธีพวกนี้ใช้เงินไม่มาก แต่ก็ทำให้ผมทำคะแนนสอบได้พอ ๆ กับเพื่อน ๆ ที่ไปกวดวิชาที่สถาบันดัง ๆ

หลังอาบน้ำเสร็จและเอาเสื้อผ้าที่เปียกไปซักรวมกับเสื้อผ้าที่ใส่แล้วในตะกร้า ผมก็มานอนเล่นมือถือบนเตียง โชคดีวันนี้อากาศดีเพราะฝนเพิ่งตก ผมเลยไม่ต้องเปิดแอร์ เปิดแค่พัดลมเบอร์ 2 ก็อยู่ได้สบาย แล้วพอได้เวลาผมก็ลงไปเอาผ้ามาตาก ตากเสร็จก็กลับขึ้นเตียงหยิบมือถือมาดูรายการของ จิมมี่ แฟลลอน บนยูทูป ใครกำลังฝึกภาษาอังกฤษผมแนะนำให้ลองหารายการทอล์กโชว์ของฝรั่งมาดู นอกจากจะสนุกแล้วยังได้คำศัพท์ที่เอาไปใช้ในชีวิตจริงได้อีก

ดูจิมมี่ แฟลลอนได้ครึ่งคลิป มือถือของผมก็เด้งหน้าวิดีโอคอลขึ้นมา คนที่โทรมาคือพี่นาถ พี่สาวของผมเอง ผมกดรับสาย

“หวัดดีพี่”

“ไงบ้างนนท์ พรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรก” เสียงพี่นาถไม่สดใส ฟังดูสะลึมสะลือ คล้ายคนอยากนอน

“พรุ่งนี้ยังไม่เปิดเทอมนะ รุ่นพี่นัดไปปฐมนิเทศน์แล้วก็เข้ากิจกรรมรับน้อง”

“อยู่ที่โน่นก็พักผ่อนบ้างนะ อย่าเอาแต่เรียนกับทำงานหนักเกินไป เดี๋ยวจะเครียดนะรู้ไหม”

“มาบอกผมอย่างนี้พี่ดูแลตัวเองก่อนเถอะ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นกี่โมงแล้ว ที่ไทยตอนนี้ 5 ทุ่ม งั้นที่ญี่ปุ่นต้องตี 1 แล้ว ทำไมยังไม่นอนอีก ทำงานหนักเหรอพี่ช่วงนี้?”

“อือ ช่วงนี้ต้องเร่งทำน่ะ อนิเมะเรื่องใหม่ใกล้ฉายแล้ว คนในบริษัทเลยต้องทำงานล่วงเวลากันทุกคนเลย”

“ทำงานดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้ระวังสุขภาพด้วยนะพี่ เดี๋ยวนี้แก่แล้วนะ ไม่เหมือนสมัยสาว ๆ ที่มีแรงทำงานโต้รุ่ง”

“จะบ้าเหรอนนท์ พี่ยังไม่แก่นะ อายุยังไม่ขึ้นเลยสามเลยย่ะ นี่ก็ว่าจะไปนอนแล้ว แค่โทรมาทักทายเฉย ๆ แกก็ควรไปนอนได้แล้วเหมือนกัน”

“ครับ ฝันดีครับพี่”

พี่นาถกดวางสาย พี่นาถคือพี่สาวแท้ ๆ ของผมแบบคลานตามกันมา แต่ผมอาจจะคลานตามมาช้าหน่อย ช้าไปตั้ง 9 ปีแน่ะ นอกจากจะเป็นพี่สาวแล้ว พี่นาถก็ยังเหมือนแม่ที่เลี้ยงดูแลผมขึ้นมา พ่อแม่ของพวกเราเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุตอนผมอยู่ชั้น ป.2 ส่วนพี่นาถอยู่ชั้น ม.5 หลังจากนั้นป้านงค์ผู้เป็นพี่สาวของแม่ก็รับเราไปอยู่ด้วย ป้านงค์รักเราเหมือนลูก แต่แกก็มีลูกสาวกับลูกชายอายุไล่เลี่ยกับพวกเราอยู่แล้ว แถมเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทำงานเป็นครูสอนเด็กอนุบาลที่โรงเรียนแถวบ้าน รายได้แค่ทางเดียวจึงไม่ค่อยพอเลี้ยงปากท้องคนทั้งบ้านและส่งเสียเด็ก ๆ สี่คนเรียนหนังสือ พี่นาถซึ่งอายุมากที่สุดในหมู่พี่น้องจึงเรียนไปด้วยทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย หาเงินมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนของพี่และของผม

หลังจากพี่นาถเรียบจบปริญญาตรีคณะศิลปศาสตร์ สาขามัลติมีเดีย ทำงานที่ไทยได้ 2 ปี ก็ส่งผลงานไปสมัครงานกับบริษัทผลิตแอนนิเมชันที่ญี่ปุ่นหลายบริษัท จนมีบริษัทแห่งหนึ่งสนใจติดต่อให้ไปทำงานด้วย ส่วนผมเมื่อเห็นพี่สาวสยายปีกออกไปใช้ชีวิตได้อย่างสง่างามก็เลยถือโอกาสทำตามบ้าง ผมขอป้านงค์ออกมาใช้ชีวิตคนเดียว เรียนไปด้วยทำงานรับจ้างทุกอย่างหาเงินมาเป็นค่ากิน ค่าหอ และค่าเทอมตั้งแต่ผมขึ้นชั้น ม.4

ค่าเทอมมหาลัยแพงกว่าค่าเทอมโรงเรียนมัธยมหลายเท่าตัวมาก ผมคงต้องเหนื่อยทำงานพาร์ทไทม์หลายที่เพื่อจะได้มีเงินมารับผิดชอบส่วนนี้ แต่ถ้าโชคดีผมอาจขอทุนการศึกษาได้สักทุน ผมลองหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตดูแล้ว พบว่ามหาลัยที่ผมเข้าเรียนมีทุนให้นักศึกษาหลายทุนมาก แทบทั้งหมดเป็นทุนให้เปล่า บางทุนก็ได้เต็มจำนวนค่าเทอม บางทุนก็ได้ไม่ถึง แต่ไม่ว่าจะได้ทุนมาเท่าไหร่ผมก็ยินดีทั้งนั้น เพราะเท่ากับผมจะเหนื่อยในการหาเงินน้อยลง แล้วเอาเวลาไปทุ่มให้กับการทำเกรดแทน หรืออย่างแย่สุดถ้าไม่ได้เลยสักทุน ผมก็คงต้องกู้กยศ. และขอให้ป้านงค์มาเป็นคนเซ็นต์ค้ำประกันให้ ซึ่งผมไม่อยากไปรบกวนป้าแกเลย

เมื่อคืนนอนสบายมาก ใจหนึ่งผมก็ชอบฝนเพราะทำให้อากาศเย็นสบาย นอนหลับง่ายโดยไม่ต้องเปิดแอร์ แต่ใจหนึ่งผมก็ไม่ชอบ ถ้าฝนเกิดตกตอนผมกำลังขับรถส่งอาหารอยู่ มันทำให้คุมมอไซด์ยาก ทัศนวิสัยมองเห็นลำบาก แถมทำให้ถนนลื่น เกิดอันตรายได้ง่าย

ผมเพิ่งอาบน้ำและแต่งตัวในชุดนักศึกษาเต็มยศเสร็จ มือถือที่เสียบปลั๊กชาร์ตแบตไว้ตรงหัวเตียงก็เสียงดังขึ้น ผมเดินไปปลดสายชาร์ตแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู เห็นเป็นหน้าต่างวิดีโอคอลมาจากพี่นาถ ผมกดรับสาย หน้าจอเป็นหน้าพี่นาถที่ดูไม่ได้สดชื่นขึ้นกว่าเมื่อคืนเลย

“ว่าไงพี่ เมื่อคืนได้นอนป่ะเนี่ย ทำไมหน้าโทรมยังกับคนอดนอนมาหลายวัน”

“โดนโทรตามเรื่องงานแต่เช้าน่ะสิ ช่วงยุ่ง ๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ ชินแล้ว ไว้ผ่านช่วงนี้ไปค่อยกู้ร่างคืนทีเดียว”

“แล้วโทรมาหามีอะไรหรือเปล่า? ผมกำลังจะไปมหาลัยพอดีเลย”

“อืม จะโทรมาบอกว่าพี่ติดต่อเพื่อนที่ไทยไว้ให้ เป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยมาด้วยกัน ชื่อพี่กับข้าวนะ นนท์รู้จักพี่เขาไว้ เผื่อมีอะไรจะได้ให้พี่เขาช่วยเหลือ เดี๋ยวพี่ส่งคอนแทคให้นะ”

“เพื่อนของพี่สมัยเรียนมหาลัยเหรอ ชื่ออะไรนะ?”

“ชื่อกับข้าว”

“ไม่เคยได้ยินชื่อแฮะ ก่อนหน้านี้ทำไมไม่เห็นแนะนำให้รู้จักเลย”

“จริง ๆ หลังเรียนจบก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ทางนั้นทักมาก่อนน่ะ ข้าวจำได้ว่าพี่เคยเล่าให้ฟังว่ามีน้องอายุเท่ากับน้องของข้าว ข้าวเลยทักมาถามว่าน้องเข้ามหาลัยที่ไหน บังเอิญว่าน้องของข้าวก็เข้ามหาลัยเดียวกับนนท์ คณะเดียวกันด้วยนะ แต่เห็นว่าเรียนภาคพิเศษ”

“งั้นบ้านเขาก็รวยอ่ะดิ ค่าเทอมภาคพิเศษคณะผมแพงจะตาย”

“คงงั้นมั้ง”

“แล้วน้องเขาชื่ออะไรล่ะ เผื่อวันนี้ผมเจอจะได้ทัก”

“จำไม่ได้อ่ะ แต่ชื่อไม่ได้ขึ้นต้นด้วย ข. เหมือนข้าว” ผมได้ยินเสียงเพื่อนร่วมงานของพี่นาถเรียกหา “มีอะไรก็ขอให้พี่ข้าวช่วยได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ พี่เขาใจดี พี่ต้องไปแล้วนะนนท์ หัวหน้าเรียกน่ะ ขอให้สนุกกับวันแรกที่มหาลัยนะ” พี่นาถกดวางสายโดยไม่รอให้ผมร่ำลา ช่วงนี้พี่คงยุ่งจริง ๆ

แล้วในแอพแชทของผมก็เด้งแจ้งเตือนว่าพี่นาถส่งคอนแทคมาให้ ผมกดเข้าไปดูเห็นโปรไฟล์ชื่อกับข้าว จึงกดเพิ่มเพื่อนไปแล้วพิมพ์แนะนำตัวกับพี่เขาสักหน่อย

นนท์

สวัสดีครับพี่กับข้าว ผมนนท์ น้องชายพี่นาถนะครับ

กดส่งข้อความปุ๊บ ฝ่ายนั้นก็อ่านปั๊บ มุมขวาล่างของหน้าต่างแชทขึ้น 3 จุด ฝ่ายโน้นกำลังพิมพ์ข้อความอยู่

กับข้าว

สวัสดีจ้าน้องนนท์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ

เห็นนาถบอกว่าทำงานส่งตัวเองเรียนเหรอ

เก่งจังเลย ตอนนี้ทำอะไรบ้างล่ะ
นนท์

หลัก ๆ ก็ขับรถส่งอาหารครับ

แต่พอเปิดเทอมคงทำได้แค่เสาร์อาทิตย์

เลยว่าจะหางานพาร์ทไทม์ร้านกาแฟทำหลังเลิกเรียนดูครับ
กับข้าว

เห็นนาถบอกว่านนท์เก่งภาษาอังกฤษ
นนท์

ก็พอได้ครับ
กับข้าว

รับติวภาษาอังกฤษไหม

พี่จะฝากน้องไปติวด้วย
นนท์

รับครับ
กับข้าว

งั้นวันพรุ่งนี้ขอนัดเจอหน่อยสิ

พี่จะพาน้องไปแนะนำให้รู้จัก

แค่นี้แหละ ไม่กวนละ
นนท์

ขอบคุณครับพี่

สวัสดีครับ

โชคดีอะไรขนาดนี้ จู่ ๆ ก็ได้งานติวหนังสือ สมัยเรียนมัธยมผมก็เคยติวให้เพื่อนในชั้นบ้าง แต่ไม่เคยเก็บเงิน ติวหนังสือนี่เขาคิดค่าจ้างยังไง คิดเป็นรายชั่วโมงใช่ไหม ไว้ผมค่อยหาราคากลางในอินเตอร์เน็ตไปเสนอพี่กับข้าว ตอนนี้รีบไปคณะก่อนดีกว่า ขืนออกช้ากว่านี้อาจจะสายจากเวลาที่รุ่นพี่นัดได้

ผมคว้าเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาลอ่อนตัวเก่งออกมาสวม แล้วลงไปข้างล่าง ควบมอไซด์ที่จอดอยู่ข้างหอขี่ออกไปมุ่งสู่มหาลัย หอผมไม่ได้ใกล้มหาลัย เพราะยิ่งหอไหนใกล้มหาลัยค่าเช่าก็ยิ่งแพง ชีวิตนักศึกษาของผมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผมยิ้มรับมัน กิจกรรมวันนี้จะสนุกไหม รุ่นพี่จะวางมาดดุแค่ไหน และวันนี้ผมจะได้เพื่อนใหม่กี่คน เบื้องหน้าผมดูน่าตื่นเต้นไปหมด ผมสนุกกับการทำตัวเป็นขนนกที่พร้อมปลิวไปตามสายลมที่โบกพัดมา


Share

Leave a comment

Leave a Reply

What's New

ดำดิ่งสู่โลกกลับทิศ จิตวิทยาที่ซ่อนอยู่ในซีรีส์ “สเตรนเจอร์ ทิงส์”

หากพูดถึงซีรีส์ที่คนทั้งโลกรอคอย ซีรีส์ที่ปั้นเด็กไม่มีชื่อเสียงให้มายืนแถวหน้าของวงการบันเทิงได้ ซีรีส์ที่เป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดให้คนมาสมัครบริการ Netflix จะเป็นซีรีส์เรื่องไหนไม่ได้นอกจากเรื่องสเตรนเจอร์ ทิงส์ ที่ตอนนี้มีมาถึงซีซัน 5 ซึ่งเป็นซีซันสุดท้ายแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ผลงานท้ายสุดของจักรวาลในซีรีส์นี้ เพราะในปี 2026 จะมีอนิเมชันที่เรื่องราวอยู่ในช่วงระหว่างซีซัน 2 และ 3 ของซีรีส์ต้นฉบับออกฉายตามมาครับ สาเหตุที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกใจคนทั้งโลก และขยายจักรวาลมาได้ยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ นอกจากเนื้อเรื่องที่ลึกลับน่าติดตามแล้ว อีกเหตุผลคือแต่ละตัวละครในเรื่องดูมีมิติสมจริง มีปูมหลัง และมีแรงผลักดันในชีวิตที่แตกต่างกันไป...

นาทีชีวิตฉุกเฉิน วิชาปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ควรมีติดตัว เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินในวินาทีชีวิต

ทุกนาทีในชีวิตสามารถเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต เหตุการณ์ฉุกเฉินไม่เลือกสถานที่เกิด ไม่ว่าจะเป็นบนถนน ในห้างฯ หรือแม้กระทั่งบ้านของพวกเราเอง การมีความรู้เบื้องต้นในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ช่วยให้เราลดความเสี่ยงที่เหตุการณ์นั้นจะอันตรายถึงชีวิตได้ครับ ไอติมเล่า ep นี้มาแนะนำเนื้อหาจากหนังสือ อยู่ให้ได้ ตายให้ดี: เรียนรู้นาทีชีวิตจากห้องฉุกเฉิน เขียนโดยคุณหมอสองท่านครับคือ หมอเจี๊ยบ พญ. ลลนา ก้องธรนินทร์ และหมอยุ้ย พญ. พรรณอร เฉลิมดำริชัย ในเล่มนี้เล่าว่าหมอฉุกเฉินต้องเจอกับอะไรบ้าง...

บทเรียนจากคนเหล็ก 7 ข้อคิดการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จฉบับอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์

การได้อ่านหรือได้ฟังเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จ ถือเป็นทางลัดอย่างหนึ่งในการเรียนรู้ชีวิต โดยที่เราไม่ต้องรอให้พบเจอด้วยตัวเอง ยิ่งคนนั้นเป็นคนที่ใช้ชีวิตมานาน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ บทเรียนจากชีวิตของพวกเขาก็ยิ่งมีคุณค่า ไอติมอ่าน ep นี้มาแนะนำเนื้อหาจากหนังสือ Be Useful: Seven Tools for Life ชื่อภาษาไทยคือ จงทำตัวให้มีประโยชน์: 7 เครื่องมือสำหรับใช้ชีวิต เขียนโดยอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger)...

คิดมากไปทำไม ขนาดพระพุทธเจ้ายังเคยทำพลาดเลย แค่รู้ประวัติศาสตร์ ก็หายขาดจากความกลุ้มใจได้แล้ว

เพื่อน ๆ กำลังทุกข์ใจและเหนื่อยที่ต้องแบกรับความกดดันเอาไว้มากเกินไปอยู่หรือเปล่าครับ กำลังรู้สึกแย่ที่ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่นอยู่หรือเปล่า สังคมทุกวันนี้มีสารพัดเรื่องให้กลุ้มใจ แล้วเพื่อน ๆ เคยคิดบ้างไหมครับว่าปัญหาที่กำลังเจออยู่นี้ เคยมีคนอื่นเจอมาก่อนเราหรือเปล่า แม้ประวัติศาสตร์จะเต็มไปด้วยเรื่องราวของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ แต่เบื้องหลักชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นล้วนผ่านเรื่องราวมากมาย พวกเขาเป็นคนธรรมดาเหมือนกับพวกเรานี่แหละครับ การศึกษาประวัติศาสตร์ทำให้เรารู้ว่าทุกคนล้วนเคยผิดพลาดกันมาบ้าง และการจะได้มาซึ่งความสำเร็จบางครั้งต้องอาศัยเวลาที่เหมาะสม ไอติมฮีลใจ ep นี้มาแนะนำหนังสือคิดมากไปทำไม ขนาดพระพุทธเจ้ายังเคยทำพลาดเลย เขียนโดยฟุกาอิ ริวโนะซุเกะ หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องราวชีวิตของบุคคลที่เป็นที่รู้จักระดับโลกว่ากว่าที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จต้องล้มลุกคลุกคลานมายังไงบ้าง ในเล่มพูดถึงหลายคนเลยครับ แต่ผมขอเลือกเรื่องของคนที่ผมสนใจมาเล่าให้เพื่อน...

วัฒนธรรมคำจีน จากกงสีถึงอั่งเปา คำยืมที่เล่าประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-จีน

ปี พ.ศ. 2568 เป็นวาระครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีนอย่างเป็นทางการ แต่ในความเป็นจริงคนไทยและคนจีนมีความเชื่อมโยงกันมากว่า 2,000 ปีแล้ว โดยมีหลักฐานโบราณบ่งบอกว่าดินแดนแถบบ้านเรามีการค้าขายกับแผ่นดินจีนมาตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่น การค้าขายกับจีนสร้างความมั่งคั่งให้กับกรุงศรีอยุธยาและเมืองท่าต่าง ๆ รอบอ่าวไทยมาตลอดเวลายาวนานหลายร้อยปี ชาวจีนเข้ามาตั้งหลักปักฐานอยู่ในสยาม สร้างศาลเจ้า สร้างบ้าน สร้างร้านค้า และนำวัฒนธรรมแบบจีนติดตัวมาด้วย บางคำศัพท์ที่เราได้ยินหรือใช้ในชีวิตประจำวัน หลายคำก็เป็นคำที่ยืมมาจากภาษาจีน ไอติมเล่า ep นี้มาเล่าความหมายและที่มาของคำจีนคุ้นหู...

จิตวิทยาต่อรอง จะต้องพูดและทำอะไรในการต่อรองที่แพ้ไม่ได้

ในชีวิตประจำวันเราต้องพบเจอกับเรื่องมากมายที่ต้องอาศัยการเจรจาต่อรอง ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองขอลดราคาสินค้า ต่อรองกับลูกค้า หรือต่อรองเพื่อขอขึ้นเงินเดือน เทคนิคการต่อรองมีสอนกันมานานแล้ว แต่เทคนิคเหล่านั้นเน้นไปที่การท่องจำประโยคสำเร็จรูป ทั้งที่จริง ๆ แล้วการเจรจาต่อรองเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไม่ได้ เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับอารมณ์มากกว่าเหตุผลครับ ดังนั้นการต่อรองต้องมุ่งเน้นไปที่การจัดการกับอารมณ์ของอีกฝ่าย แทนที่จะยกเหตุผลต่าง ๆ นานามาคุยกันเหมือนหุ่นยนต์ที่ไร้ความรู้สึก ไอติมอ่าน ep นี้มาสรุปเนื้อหาจากหนังสือ Never Split the Difference จิตวิทยาต่อรอง เขียนโดยคริส...

Related Articles

รักไม่รับจ้าง – ตอนที่ 27 (จบ)

ตู้เย็น ช่วงก่อนสอนปลายภาค ไอ้นนท์ช่วยเก็งข้อสอบให้ผมล่วงหน้าตั้ง 2 สัปดาห์ ช่วงนั้นผมหัวหมุนมากเป็นพิเศษ และแปลกใจมากที่ไอ้นนท์ไม่กังวลเกี่ยวกับการสอบเลย วันธรรมดาหลังเลิกเรียน มันยังไปทำงานพิเศษที่ร้านกรีนเฮาส์คาเฟ่และลมเย็นบาร์จนถึงเที่ยงคืน เสาร์อาทิตย์ยังออกไปขี่รถรับส่งอาหาร ระหว่างที่มันไม่อยู่ด้วย ผมก็พยายามทบทวนหนังสือ...

รักไม่รับจ้าง – ตอนที่ 26

นนท์ ถึงแม้ผมจะคุ้นเคยกับคอนโดของไอ้ตู้เย็นแล้ว แต่พอมันไม่อยู่ ห้องนี้ดูเหมือนจะใหญ่เกินไปสำหรับอยู่คนเดียว ผมเกิดอาการคิดถึงมันขึ้นมา เกิดความรู้สึกเหงาขึ้นมา ทั้งที่แต่ก่อนอยู่ตามลำพังมาได้ตลอด พอห่างจากผม ไม่รู้ว่าไอ้ตู้เย็นจะรู้สึกเหงาและคิดถึงแบบเดียวกันหรือเปล่า อยู่ห้องก็ไม่มีอะไรให้ทำ วันนี้ผมเลยจะออกไปขี่รถรับส่งอาหารไวกว่าปกติละกัน ขณะกำลังจะลุกไปเตรียมตัว...

รักไม่รับจ้าง – ตอนที่ 25

ตู้เย็น อาบน้ำเย็น ๆ ชำระล้างเหงื่อไคลจนสะอาดสะอ้านแล้วผมก็สดชื่นขึ้นมาทันที ผมนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้องน้ำ กำลังจะเข้าไปแต่งตัวในห้องนอนก็เห็นไอ้นนท์นั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวี หัวเราะคิกคัก สายตาจ้องไปที่หน้าจอมือถือในมือ “ขำอะไรวะ แบ่งกูดูบ้างสิ” “พี่แองโจลี่ส่งคลิปที่มึงใส่ชุดมาสคอตมาให้ดู มึงนี่ใช้ได้เหมือนกันนะ...

รักไม่รับจ้าง – ตอนที่ 24

นนท์ ผมตามพี่แองโจลี่มาลองชุดกับพี่ไก่แจ้ เสื้อผ้าวันนี้มาในธีมสีแดงสดใสร้อนแรง พี่ไก่แจ้เลือกให้พวกเราคนละ 2 ชุด จากนั้นพาทุกคนมาที่หน้าเวทีเพื่อซ้อมเดินแบบ ซ้อมกันอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ได้พัก พี่แองโจลี่เอาน้ำเย็นมาให้ผมกับไมค์คนละขวด ผมรับมาดื่มแล้วถามหาไอ้ตู้เย็น...

สรุปเนื้อหาและแนะนำหนังสือที่น่าสนใจ ชวนเพื่อน ๆ มาพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นในทุก ๆ วันไปด้วยกันครับ

Copyright 2025 Aitim and Co. All rights reserved

error: Content is protected !!