นนท์
วันนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นวันที่ผมเหนื่อยที่สุดในชีวิต สภาพผมตอนนี้เปียกโชกเหมือนลูกนกตกน้ำ พยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะเกียกตะกายจนบินกลับรังได้สำเร็จ วันนี้ตั้งแต่เช้าผมออกไปขับรถส่งอาหารทั้งวัน ซึ่งผมน่าจะวิ่งรับได้อีก 2-3 ออเดอร์ ถ้าฝนไม่ตกหนักจนอันตรายเกินกว่าจะขับมอไซด์ และทำผมเปียกทั้งตัวยันกางเกงใน
ผมกลับมาถึงห้องเช่าขนาด 23 ตารางเมตร รีบตรงไปยังห้องน้ำทันที แล้วถอดเสื้อผ้าที่เปียกออกเตรียมเอาไปซัก ผมคงต้องรีบอาบน้ำทันที เพราะกลัวว่าน้ำฝนในเมืองจะไม่สะอาดแล้วทำให้ไม่สบายเอา ผมไม่อยากป่วยช่วงนี้เพราะใกล้เปิดเทอมแล้ว
ผมชื่อ นนท์ ทักษะโยธิน ชื่อเล่นชื่อนนท์เหมือนชื่อจริงเลยครับ พรุ่งนี้ผมจะได้ใช้ชีวิตการเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์อย่างเต็มตัวเป็นวันแรก สาเหตุที่เลือกเรียนสาขานี้เพราะผมมองไปถึงอนาคตด้านการงาน ผมมีความคิดว่าเทคโนโลยีทำให้ช่องว่างทางสังคมแคบลง หมายความว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีสถานะอย่างไรในสังคม จะยากดีมีจน ขอแค่ใช้เทคโนโลยีเป็น มันจะสามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณให้รุ่งโรจน์ได้ ผมฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้มีโอกาสทำงานในบริษัทชื่อดังสักแห่งในซิลิคอนวัลเลย์ อาจจะเป็นเฟซบุ๊ก กูเกิ้ล แอปเปิ้ล หรือไมโครซอฟต์ก็ได้
ความฝันนี้ของผมชัดเจนตั้งแต่เริ่มขึ้น ม.ปลาย การจะเข้าทำงานบริษัทเหล่านั้นได้ ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษจำเป็นมาก ผมจึงเริ่มเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ซื้อหนังสือมาอ่าน ดูคลิปสอนในยูทูบ วิธีพวกนี้ใช้เงินไม่มาก แต่ก็ทำให้ผมทำคะแนนสอบได้พอ ๆ กับเพื่อน ๆ ที่ไปกวดวิชาที่สถาบันดัง ๆ
หลังอาบน้ำเสร็จและเอาเสื้อผ้าที่เปียกไปซักรวมกับเสื้อผ้าที่ใส่แล้วในตะกร้า ผมก็มานอนเล่นมือถือบนเตียง โชคดีวันนี้อากาศดีเพราะฝนเพิ่งตก ผมเลยไม่ต้องเปิดแอร์ เปิดแค่พัดลมเบอร์ 2 ก็อยู่ได้สบาย แล้วพอได้เวลาผมก็ลงไปเอาผ้ามาตาก ตากเสร็จก็กลับขึ้นเตียงหยิบมือถือมาดูรายการของ จิมมี่ แฟลลอน บนยูทูป ใครกำลังฝึกภาษาอังกฤษผมแนะนำให้ลองหารายการทอล์กโชว์ของฝรั่งมาดู นอกจากจะสนุกแล้วยังได้คำศัพท์ที่เอาไปใช้ในชีวิตจริงได้อีก
ดูจิมมี่ แฟลลอนได้ครึ่งคลิป มือถือของผมก็เด้งหน้าวิดีโอคอลขึ้นมา คนที่โทรมาคือพี่นาถ พี่สาวของผมเอง ผมกดรับสาย
“หวัดดีพี่”
“ไงบ้างนนท์ พรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรก” เสียงพี่นาถไม่สดใส ฟังดูสะลึมสะลือ คล้ายคนอยากนอน
“พรุ่งนี้ยังไม่เปิดเทอมนะ รุ่นพี่นัดไปปฐมนิเทศน์แล้วก็เข้ากิจกรรมรับน้อง”
“อยู่ที่โน่นก็พักผ่อนบ้างนะ อย่าเอาแต่เรียนกับทำงานหนักเกินไป เดี๋ยวจะเครียดนะรู้ไหม”
“มาบอกผมอย่างนี้พี่ดูแลตัวเองก่อนเถอะ ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นกี่โมงแล้ว ที่ไทยตอนนี้ 5 ทุ่ม งั้นที่ญี่ปุ่นต้องตี 1 แล้ว ทำไมยังไม่นอนอีก ทำงานหนักเหรอพี่ช่วงนี้?”
“อือ ช่วงนี้ต้องเร่งทำน่ะ อนิเมะเรื่องใหม่ใกล้ฉายแล้ว คนในบริษัทเลยต้องทำงานล่วงเวลากันทุกคนเลย”
“ทำงานดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้ระวังสุขภาพด้วยนะพี่ เดี๋ยวนี้แก่แล้วนะ ไม่เหมือนสมัยสาว ๆ ที่มีแรงทำงานโต้รุ่ง”
“จะบ้าเหรอนนท์ พี่ยังไม่แก่นะ อายุยังไม่ขึ้นเลยสามเลยย่ะ นี่ก็ว่าจะไปนอนแล้ว แค่โทรมาทักทายเฉย ๆ แกก็ควรไปนอนได้แล้วเหมือนกัน”
“ครับ ฝันดีครับพี่”
พี่นาถกดวางสาย พี่นาถคือพี่สาวแท้ ๆ ของผมแบบคลานตามกันมา แต่ผมอาจจะคลานตามมาช้าหน่อย ช้าไปตั้ง 9 ปีแน่ะ นอกจากจะเป็นพี่สาวแล้ว พี่นาถก็ยังเหมือนแม่ที่เลี้ยงดูแลผมขึ้นมา พ่อแม่ของพวกเราเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุตอนผมอยู่ชั้น ป.2 ส่วนพี่นาถอยู่ชั้น ม.5 หลังจากนั้นป้านงค์ผู้เป็นพี่สาวของแม่ก็รับเราไปอยู่ด้วย ป้านงค์รักเราเหมือนลูก แต่แกก็มีลูกสาวกับลูกชายอายุไล่เลี่ยกับพวกเราอยู่แล้ว แถมเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทำงานเป็นครูสอนเด็กอนุบาลที่โรงเรียนแถวบ้าน รายได้แค่ทางเดียวจึงไม่ค่อยพอเลี้ยงปากท้องคนทั้งบ้านและส่งเสียเด็ก ๆ สี่คนเรียนหนังสือ พี่นาถซึ่งอายุมากที่สุดในหมู่พี่น้องจึงเรียนไปด้วยทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย หาเงินมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนของพี่และของผม
หลังจากพี่นาถเรียบจบปริญญาตรีคณะศิลปศาสตร์ สาขามัลติมีเดีย ทำงานที่ไทยได้ 2 ปี ก็ส่งผลงานไปสมัครงานกับบริษัทผลิตแอนนิเมชันที่ญี่ปุ่นหลายบริษัท จนมีบริษัทแห่งหนึ่งสนใจติดต่อให้ไปทำงานด้วย ส่วนผมเมื่อเห็นพี่สาวสยายปีกออกไปใช้ชีวิตได้อย่างสง่างามก็เลยถือโอกาสทำตามบ้าง ผมขอป้านงค์ออกมาใช้ชีวิตคนเดียว เรียนไปด้วยทำงานรับจ้างทุกอย่างหาเงินมาเป็นค่ากิน ค่าหอ และค่าเทอมตั้งแต่ผมขึ้นชั้น ม.4
ค่าเทอมมหาลัยแพงกว่าค่าเทอมโรงเรียนมัธยมหลายเท่าตัวมาก ผมคงต้องเหนื่อยทำงานพาร์ทไทม์หลายที่เพื่อจะได้มีเงินมารับผิดชอบส่วนนี้ แต่ถ้าโชคดีผมอาจขอทุนการศึกษาได้สักทุน ผมลองหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตดูแล้ว พบว่ามหาลัยที่ผมเข้าเรียนมีทุนให้นักศึกษาหลายทุนมาก แทบทั้งหมดเป็นทุนให้เปล่า บางทุนก็ได้เต็มจำนวนค่าเทอม บางทุนก็ได้ไม่ถึง แต่ไม่ว่าจะได้ทุนมาเท่าไหร่ผมก็ยินดีทั้งนั้น เพราะเท่ากับผมจะเหนื่อยในการหาเงินน้อยลง แล้วเอาเวลาไปทุ่มให้กับการทำเกรดแทน หรืออย่างแย่สุดถ้าไม่ได้เลยสักทุน ผมก็คงต้องกู้กยศ. และขอให้ป้านงค์มาเป็นคนเซ็นต์ค้ำประกันให้ ซึ่งผมไม่อยากไปรบกวนป้าแกเลย
เมื่อคืนนอนสบายมาก ใจหนึ่งผมก็ชอบฝนเพราะทำให้อากาศเย็นสบาย นอนหลับง่ายโดยไม่ต้องเปิดแอร์ แต่ใจหนึ่งผมก็ไม่ชอบ ถ้าฝนเกิดตกตอนผมกำลังขับรถส่งอาหารอยู่ มันทำให้คุมมอไซด์ยาก ทัศนวิสัยมองเห็นลำบาก แถมทำให้ถนนลื่น เกิดอันตรายได้ง่าย
ผมเพิ่งอาบน้ำและแต่งตัวในชุดนักศึกษาเต็มยศเสร็จ มือถือที่เสียบปลั๊กชาร์ตแบตไว้ตรงหัวเตียงก็เสียงดังขึ้น ผมเดินไปปลดสายชาร์ตแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู เห็นเป็นหน้าต่างวิดีโอคอลมาจากพี่นาถ ผมกดรับสาย หน้าจอเป็นหน้าพี่นาถที่ดูไม่ได้สดชื่นขึ้นกว่าเมื่อคืนเลย
“ว่าไงพี่ เมื่อคืนได้นอนป่ะเนี่ย ทำไมหน้าโทรมยังกับคนอดนอนมาหลายวัน”
“โดนโทรตามเรื่องงานแต่เช้าน่ะสิ ช่วงยุ่ง ๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ ชินแล้ว ไว้ผ่านช่วงนี้ไปค่อยกู้ร่างคืนทีเดียว”
“แล้วโทรมาหามีอะไรหรือเปล่า? ผมกำลังจะไปมหาลัยพอดีเลย”
“อืม จะโทรมาบอกว่าพี่ติดต่อเพื่อนที่ไทยไว้ให้ เป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยมาด้วยกัน ชื่อพี่กับข้าวนะ นนท์รู้จักพี่เขาไว้ เผื่อมีอะไรจะได้ให้พี่เขาช่วยเหลือ เดี๋ยวพี่ส่งคอนแทคให้นะ”
“เพื่อนของพี่สมัยเรียนมหาลัยเหรอ ชื่ออะไรนะ?”
“ชื่อกับข้าว”
“ไม่เคยได้ยินชื่อแฮะ ก่อนหน้านี้ทำไมไม่เห็นแนะนำให้รู้จักเลย”
“จริง ๆ หลังเรียนจบก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ทางนั้นทักมาก่อนน่ะ ข้าวจำได้ว่าพี่เคยเล่าให้ฟังว่ามีน้องอายุเท่ากับน้องของข้าว ข้าวเลยทักมาถามว่าน้องเข้ามหาลัยที่ไหน บังเอิญว่าน้องของข้าวก็เข้ามหาลัยเดียวกับนนท์ คณะเดียวกันด้วยนะ แต่เห็นว่าเรียนภาคพิเศษ”
“งั้นบ้านเขาก็รวยอ่ะดิ ค่าเทอมภาคพิเศษคณะผมแพงจะตาย”
“คงงั้นมั้ง”
“แล้วน้องเขาชื่ออะไรล่ะ เผื่อวันนี้ผมเจอจะได้ทัก”
“จำไม่ได้อ่ะ แต่ชื่อไม่ได้ขึ้นต้นด้วย ข. เหมือนข้าว” ผมได้ยินเสียงเพื่อนร่วมงานของพี่นาถเรียกหา “มีอะไรก็ขอให้พี่ข้าวช่วยได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ พี่เขาใจดี พี่ต้องไปแล้วนะนนท์ หัวหน้าเรียกน่ะ ขอให้สนุกกับวันแรกที่มหาลัยนะ” พี่นาถกดวางสายโดยไม่รอให้ผมร่ำลา ช่วงนี้พี่คงยุ่งจริง ๆ
แล้วในแอพแชทของผมก็เด้งแจ้งเตือนว่าพี่นาถส่งคอนแทคมาให้ ผมกดเข้าไปดูเห็นโปรไฟล์ชื่อกับข้าว จึงกดเพิ่มเพื่อนไปแล้วพิมพ์แนะนำตัวกับพี่เขาสักหน่อย
นนท์
สวัสดีครับพี่กับข้าว ผมนนท์ น้องชายพี่นาถนะครับ
กดส่งข้อความปุ๊บ ฝ่ายนั้นก็อ่านปั๊บ มุมขวาล่างของหน้าต่างแชทขึ้น 3 จุด ฝ่ายโน้นกำลังพิมพ์ข้อความอยู่
กับข้าว
สวัสดีจ้าน้องนนท์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ
เห็นนาถบอกว่าทำงานส่งตัวเองเรียนเหรอ
เก่งจังเลย ตอนนี้ทำอะไรบ้างล่ะ
นนท์ หลัก ๆ ก็ขับรถส่งอาหารครับ แต่พอเปิดเทอมคงทำได้แค่เสาร์อาทิตย์ เลยว่าจะหางานพาร์ทไทม์ร้านกาแฟทำหลังเลิกเรียนดูครับ
กับข้าว
เห็นนาถบอกว่านนท์เก่งภาษาอังกฤษ
นนท์
ก็พอได้ครับ
กับข้าว
รับติวภาษาอังกฤษไหม
พี่จะฝากน้องไปติวด้วย
นนท์
รับครับ
กับข้าว
งั้นวันพรุ่งนี้ขอนัดเจอหน่อยสิ
พี่จะพาน้องไปแนะนำให้รู้จัก
แค่นี้แหละ ไม่กวนละ
นนท์
ขอบคุณครับพี่
สวัสดีครับ
โชคดีอะไรขนาดนี้ จู่ ๆ ก็ได้งานติวหนังสือ สมัยเรียนมัธยมผมก็เคยติวให้เพื่อนในชั้นบ้าง แต่ไม่เคยเก็บเงิน ติวหนังสือนี่เขาคิดค่าจ้างยังไง คิดเป็นรายชั่วโมงใช่ไหม ไว้ผมค่อยหาราคากลางในอินเตอร์เน็ตไปเสนอพี่กับข้าว ตอนนี้รีบไปคณะก่อนดีกว่า ขืนออกช้ากว่านี้อาจจะสายจากเวลาที่รุ่นพี่นัดได้
ผมคว้าเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาลอ่อนตัวเก่งออกมาสวม แล้วลงไปข้างล่าง ควบมอไซด์ที่จอดอยู่ข้างหอขี่ออกไปมุ่งสู่มหาลัย หอผมไม่ได้ใกล้มหาลัย เพราะยิ่งหอไหนใกล้มหาลัยค่าเช่าก็ยิ่งแพง ชีวิตนักศึกษาของผมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผมยิ้มรับมัน กิจกรรมวันนี้จะสนุกไหม รุ่นพี่จะวางมาดดุแค่ไหน และวันนี้ผมจะได้เพื่อนใหม่กี่คน เบื้องหน้าผมดูน่าตื่นเต้นไปหมด ผมสนุกกับการทำตัวเป็นขนนกที่พร้อมปลิวไปตามสายลมที่โบกพัดมา
Leave a comment