หนังสือเขียนโดย Stephane Garnier ผู้เป็นทั้งนักเขียนนิยาย นักเขียนข่าว เขาสังเกตแมวที่ตัวเองเลี้ยงและเรียนรู้จากมันมานานถึง 15 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าของหนังสือขายดีหลายเล่ม อาศัยอยู่ในเรือบ้านกับแมวที่ชื่อว่า ซิกกี้ ในเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส
แมวทำให้มนุษย์หลงไหลมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เราสังเกตและพยายามทำความเข้าใจจุดแข็ง คุณสมบัติ พฤติกรรม นิสัย รวมถึงแรงผลักดันของมัน แมวใช้ชีวิตอย่างเยือกเย็นและมีความสุข ซึ่งเราสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตได้ทั้งในเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน
ปรัชญาการใช้ชีวิตแบบแมวสามารถสรุปได้ในไม่กี่คำคือ กิน เล่น นอน มองหาความสบาย และทำเฉพาะสิ่งที่อยากทำ ทำให้มันอยู่ได้โดยไร้ความเครียด การได้เห็นวิธีใช้ชีวิตของแมวสามารถช่วยเราเปิดรับมุมมองใหม่และมองโลกต่างไปจากเดิม ผู้เขียนชวนให้เราดื่มด่ำไปกับการใช้ชีวิตให้ได้เหมือนแมว
แมวมีอิสระ
ใครบ้างล่ะที่จะไม่ฝันถึงการใช้ชีวิตอิสระ อิสระในการไปไหนมาไหน อิสระในการทำเฉพาะสิ่งที่เราอยากทำ อิสระทางความคิดและร่างกาย แต่มนุษย์เรามีแนวโน้มที่จะจำกัดอิสระของตัวเอง ทั้งล่ามโซ่ตัวเองไว้กับภาระหนี้เงินกู้จากธนาคารก้อนใหญ่ ที่เราต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหาเงินมาจากเงินต้นและดอกเบี้ย ซื้อข้าวของไร้ประโยชน์ที่เราเชื่อว่าสามารถเพิ่มคุณค่าให้ตัวเองได้ ใช้เวลาร่วมกับคนที่อยู่แล้วท็อกซิก
ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปลดปล่อยตัวเองออกจากโซ่ตรวนเหล่านั้น ลองพยายามรักษาไว้แต่สิ่งที่คุณรัก ทะนุถนอมความสัมพันธ์ที่ทำให้คุณมีความสุข ทำเฉพาะกิจกรรมที่ชอบและงานที่เติมเต็มชีวิตคุณ ไล่ตามความปรารถนาที่แท้จริงของตัวเอง
แมวมีเสน่ห์
แม้ไม่จำเป็นต้องร้องเหมียว ๆ และกระโดดโลดเต้นไปทั่วเพื่อให้ตัวเองเป็นจุดสนใจ เรารับรู้ได้ถึงการปรากฎตัวของแมวทันทีที่มันก้าวเข้ามาในห้อง แม้มันจะไม่ได้ส่งเสียงเอะอะอะไร เสน่ห์โดยธรรมชาติของแมวเป็นสิ่งที่รับประกันว่าทุกคนจะสังเกตเห็น
ความสุขุมและบุคลิกของแมวทำให้เราต้องหันไปมอง แมวดูมีระดับมาก ใครจะไม่อยากมีเสน่ห์แบบนี้ แมวทำอะไรถึงปล่อยพลังบวกและกลายเป็นจุดรวมความสนใจและความชื่นชมได้มากขนาดนี้ ความจริงแล้วมันไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากแค่เป็นตัวของตัวเอง
จงอย่าปิดบัง อย่าโกหกตัวเอง ไม่สวมบทบาทที่ไม่ใช่คุณหรือพยายามสร้างความประทับใจให้คนอื่น ขณะพูดคุยกับคนอื่นก็อย่าเอาแต่โอ้อวดตัวเอง เพราะคนฟังมีแต่จะเบื่อ เสน่ห์จะเพิ่มพูนขึ้นเมื่อคุณซื่อสัตย์กับตัวเอง บุคลิกที่ดูมีเสน่ห์ดึงดูดมีหลายรูปแบบ แต่ละคนสามารถเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดได้ตราบที่ยังเป็นตัวของตัวเอง เช่นเดียวกับแมว

แมวคิดถึงตัวเองเป็นอันดับแรก
แมวทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ของชีวิตให้กับความสุขสบายใจของมันเอง การจะทำเช่นแมวได้บางครั้งคุณต้องเห็นแก่ตัวและคิดถึงแต่ตัวเองบ้าง ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหลงตัวเอง หรือเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง แต่เป็นการให้ความสำคัญกับความสุขของคุณมากกว่าความสุขของคนอื่น
คุณไม่สามารถมอบสิ่งใดให้ใครได้ หากไม่รู้จักมอบสิ่งนั้นให้ตัวเองก่อน จงดูแลร่างกายและจิตใจของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เพราะนี่คือกุญแจสู่ความสุขของคุณ เมื่อคุณมีความสุขและพึงพอใจกับชีวิต คุณจะสามารถมอบและแบ่งปันสิ่งต่าง ๆให้กับคนอื่นได้มากขึ้น
จงสร้างพื้นที่แห่งความรักและความสุขกายสบายใจขึ้นมาเองโดยไม่ต้องรอคนอื่น ความสุขของคุณขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ไม่มีใครทำสิ่งนี้ให้คุณได้ เพราะคนอื่นไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรคุณถึงจะมีความสุข จงเก็บเกี่ยวความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ในทุกวัน รวมทั้งคว้าทุกโอกาสในการมอบของขวัญหรือช่วงเวลาแห่งความสุขให้ตัวเอง
แมวเป็นจุดสนใจ
ไม่มีใครหนีจากแรงดึงดูดของแมวได้ การทำตัวเป็นจุดสนใจของเพื่อน ๆ ของคุณตอนที่พวกเขามาสังสรรค์ที่บ้าน เป็นเกมเล็ก ๆ ที่แมวชอบเล่น แมวจะเดินมาหาพวกเขาอย่างสุขุมเยือกเย็น กะพริบตาและส่งกระแสจิตใส่เพื่อน ๆ ของคุณทีละคน และให้โอกาสพวกเขาได้ลูบไล้ขนและสัมผัสความอ่อนโยนของพวกมัน แม้จะเพิ่งเจอมันเป็นครั้งแรก มันก็จะดึงดูดความสนใจจากคนทันที
ทำไมคนถึงชอบเข้าหาแมว สิ่งที่แมวทำคือการเป็นผู้ให้ก่อน มันเสนอตัวมันเองในฐานะของขวัญปลอบประโลมจิตใจที่คุณสามารถสัมผัสได้ เพื่อเป็นจุดสนใจ เป็นศูนย์รวมของเพื่อน ๆ และครอบครัว จงเริ่มจากการเป็นผู้ให้
แมวไม่ใส่ใจเมื่อถูกคนอื่นตัดสิน
แมวพึ่งพาตัวเองและรักสันโดษ โดยธรรมชาติแล้วแมวค่อนข้างจะมีความสุขและไม่สนว่าผู้คนจะคิดอย่างไรกับมัน ในขณะที่มนุษย์เราให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของคนอื่นมาเกินไป
แมวไม่ได้ต้องการที่จะได้รับความรัก การเห็นคุณค่า การชื่นชม และการยอมรับจากคนอื่น แมวแค่เป็นตัวของตัวเอง ต่างจากมนุษย์ที่สนใจรูปลักษณ์ภายนอก เพื่อให้คนอื่นยอมรับ มันเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ที่สุดที่เราทำกับตัวเอง
เราต้องดูดี อ่อนเยาว์ ร่ำรวย ฉลาด อดทน สนุกและใจกว้าง นี่คือแบบแผนที่เกิดซ้ำ ๆ ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากแฟชั่น รายการเรียลิตี้ และสังคมออนไลน์ ยิ่งเราให้ความสำคัญกับแฟชั่น กระแสนิยมล่าสุด และการได้รับการยอมรับจากคนหมู่มาก เราก็ยิ่งเอนเอียงไปกับความคิดเห็นของคนอื่น ภาพลักษณ์กลายเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าสิ่งที่เราเป็นจริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นแมวจรหรือแมวเลี้ยงในบ้าน แมวก็ไม่เคยเอาทัศนคติหรือพฤติกรรมของแมวตัวอื่นมาใช้ มันยังคงความเป็นตัวของตัวเองเอาไว้ แมวซื่อสัตย์ต่อตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด และมันสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้ จงแน่วแน่และซื่อสัตย์กับตัวเองให้ได้อย่างแมวของคุณ จงปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากความคิดเห็นของคนอื่น จงเป็นตัวของตัวเอง

แมวรู้จักมอบหมายงาน
แม้จะไม่ควรทำอย่างโจ่งแจ้งเกินไป แต่การรู้วิธีทำให้คนรับใช้คุณได้ เหมือนที่คุณรับใช้แมวสามารถช่วยลดเวลาในแต่ละวันได้จริง ๆ เราต่างรู้ดีว่าแมวไม่ทำอะไรเลยและใช้ชีวิตแบบมีคนอื่นคอยปรนนิบัติ ราวกับมันเป็นราชาหรือราชินี
คุณไม่จำเป็นต้องเลียนแบบทัศนคติสูงส่งและทรงอำนาจนี้ให้ได้ทั้งหมด แต่คุณไม่ควรจะตกเป็นเบื้องล่างของทุกคนหรือทำสิ่งต่าง ๆ ให้ครอบครัวเสมอ คุณจะไม่ได้อยู่อย่างสงบ หากต้องคอยทำตามความคาดหวัง ความต้องการทุกอย่างของลูก ๆ หรือคนรัก
จงเรียนรู้ที่จะใช้คนให้เหมือนกับแมวของคุณ เริ่มจากมอบหมายงานประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนอื่น เช่นให้ลูก ๆ ทำงานบ้านสัก 2-3 อย่างแทนคุณ นอกจากจะทำให้พวกเขารู้จักพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น คุณยังมีเวลาเพิ่มขึ้น เหนื่อยและเครียดน้อยลง
สิ่งเหล่านี้ใช้ได้กับการทำงาน การมอบหมายงานให้คนอื่นทำเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าคุณไว้ใจตนใกล้ตัว ลูกน้อง คนรักและลูก ๆ ของคุณ จงเป็นอย่างแมวทั้งในบ้านและที่ทำงาน ด้วยการเรียนรู้ที่จะมอบหมายงานให้คนอื่น
แมวให้เวลาตัวเองได้ใช้ชีวิต
ถ้าดูจากนิสัยนั่ง ๆ นอน ๆ ของแมว เราอาจมองว่ามันขี้เกียจ แต่การไม่ทำอะไรเลยกับการให้เวลาตัวเองได้ใช้ชีวิตนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในสังคมปัจจุบันของเรา การไม่ทำอะไรเลย การใช้เวลาครุ่นคิด การพักหายใจ การสังเกต การให้เวลาตัวเองได้ใช้ชีวิตถูกมองว่าเป็นเรื่องผิด เราถูกพร่ำบอกว่าต้องไม่หยุดนิ่ง ต้องตักตวงผลประโยชน์และทำสิ่งต่าง ๆ ตลอดเวลา ห้ามเสียเวลาเปล่าโดยเด็ดขาด
การให้เวลาตัวเองได้ใช้ชีวิตคือการตระหนักรู้ถึงทุกช่วงเวลาที่ผ่านเข้ามา พิจารณาช่วงเวลาเหล่านั้นและใช้มันอย่างเหมาะสมเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับแต่ละเสี้ยววินาที คุณควรหยุดพัก ผ่อนคลาย และสังเกตโลกรอบตัว เมื่อคุณเลียนแบบแมวได้ก็จะรู้สึกว่าความสงบเล็ก ๆ ได้กลับคืนมาในชีวิตอีกครั้ง
แมวรู้ว่าเมื่อไหร่ควรปฎิเสธ
แมวเกลียดการถูกสั่ง ถ้ามันบ่นได้มันคงบ่นว่า “ถ้าอยากสั่งนักก็ไปเลี้ยงหมาสิ” ด้วยความดื้อรันตั้งแต่หัวจรดอุ้งเท้า ทำให้แมวแทบไม่เคยทำตามคำสั่ง แล้วมนุษย์ล่ะชอบทำตามคำสั่งไหม แน่นอนว่าไม่ แต่เรายังทนทำตามคำสั่งตลอดเวลาไม่รวมคำสั่งอ้อม ๆ จากบรรทัดฐานทางสังคมที่เราต้องปฏิบัติตามด้วย
จงเรียนรู้ที่จะปฏิเสธให้ได้เหมือนอย่างแมว เลิกทำตามความต้องการของคนอื่นและคำสั่งที่ไม่เหมาะกับคุณ ไม่อย่างนั้นคุณจะลงเอยด้วยการใช้ชีวิตอย่างคนหัวอ่อน ที่ตอบตกลงทั้งที่ใจอยากปฏิเสธ
บางครั้งคุณก็ต้องปฏิเสธบ้าง ไม่ใช่เพราะคุณเห็นแก่ตัว แต่เพื่อรักษาอิสระในการกระทำและเวลาของคุณ ถ้าคุณตอบตกลงกับทุกคน คุณจะเหลือเวลาใช้เพื่อความสุขของตัวเองสักเท่าไหร่กัน การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธคือการปกป้องเวลา ความสามารถในการทำสิ่งต่าง ๆ ทั้งยังช่วยให้คุณได้รับความเคารพจากครอบครัว เพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงานอีกด้วย คุณควรฟื้นฟูสมดุลระหว่างการทำตามคำสั่งกับการมีน้ำใจช่วยเหลือในเรื่องเล็กน้อย ไม่มีใครควรต้องรับใช้คนอื่นอย่างถาวร
แมวซื่อสัตย์เสมอ
แมวไม่เคยซ่อนความไม่สบายใจ ความรู้สึก และความปรารถนาของตัวเอง มันทั้งเปิดเผยและมั่นคงต่อทัศนคติกับความคิดตัวเอง แล้วทำไมคนเราถึงไม่ซื่อสัตย์กับตัวเองและคนอื่น ในเมื่อการซื่อสัตย์เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
ถ้าคุณซื่อสัตย์ก็ไม่ต้องหลอกใคร ไม่ต้องเสแสร้ง ไม่ต้องจำคำโกหกแล้วกลืนน้ำลายตัวเองในภายหลัง ไม่ต้องคอยควบคุมคำพูด รักษาท่าทาง เพื่อให้คนรอบข้างไม่รู้สึกผิดสังเกต การโกหกเป็นเรื่องน่าเหน็ดเหนื่อย คนที่ชอบโกหกสุดท้ายจะโดนจับได้ไม่ช้าก็เร็ว เพราะยิ่งโกหกมากเท่าไหร่ คำโกหกก็จะยิ่งซับซ้อนและเริ่มส่งผลกระทบต่อกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนยากที่จะปิดมันไว้
จงซื่อสัตย์และเปิดเผยเหมือนกับแมว คุณจะมีเสน่ห์และความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น คนอื่นจะได้เชื่อใจคุณ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดี ความสงบภายในจิตใจและความภูมิใจในตัวเอง

แมวเป็นเพื่อนที่จริงใจ
ถ้าแมวยอมรับคุณเข้าสู่โลกของมัน มันจะกลายเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของคุณตลอดไป มันจะคอยดูแลคุณทุกวันโดยการเดินมาหาอย่างช้า ๆ และร้องเหมียว ๆ อย่างอ่อนโยนเพื่อดูว่าวันนี้คุณเป็นยังไงบ้าง คอยรับฟังเสียงที่คุณบ่นและมันรู้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อปลอบใจให้คุณกลับมามีความสุขอีกครั้ง แมวของคุณคอยอยู่เคียงข้างคุณเสมอในทุกช่วงเวลา
แล้วมนุษย์เราคอยอยู่เคียงข้างและใส่ใจเพื่อนของเราเท่าที่แมวทำไหม บางครั้งเราละเลยความสัมพันธ์ ทั้งที่ใช้เวลานานในการสร้างมันขึ้นมา ความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนของชีวิต ทำให้เราถอยห่างจากเพื่อนหรือคนใกล้ชิด
ตัวอย่างเช่นเมื่อเราเริ่มมีความรักโรแมนติก เราอาจละเลยคนที่คอยอยู่เคียงข้างเราเสมอมาตลอดหลายปี แล้วหันไปทุ่มเทกับความรักที่เพิ่งก่อตัวขึ้น นี่คือความเห็นแก่ตัวที่อาจทำให้เพื่อนของเรารู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้งหรอรู้สึกถูกหักหลังได้ จงรักษามิตรภาพของคุณไว้ เพราะมันเป็นสิ่งหนึ่งที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิต อย่ายอมแลกอะไรกับมิตรภาพเด็ดขาด
แมวใจดีกับตัวเอง
เราทุกคนมีแนวโน้มที่จะตั้งมาตรฐานสูงเกินไปสักหน่อยในบางครั้ง เราเข้มงวดกับตัวเองจนถึงขั้นตำหนิตัวเองในเรื่องต่าง ๆ แน่นอนว่าคุณควรทะเยอทะยานและเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด แต่คุณต้องใจดีกับตัวเองในยามที่เจอกับอุปสรรคด้วย
ความถ่อมตัวและการยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ไม่ได้ขัดขวางคุณจากการภูมิใจในตัวเอง คุณควรเลิกร้องเพลงไปเลยเพราะคุณไม่ใช่ เทย์เลอร์ สวิฟต์ หรือเปล่า? คุณควรเลิกวาดรูปเพราะไม่ใช่ แวนโก๊ะ หรือเปล่า? การขาดความสามารถเหล่านั้นทำให้คุณเป็นมนุษย์ที่มีค่าน้อยลงไหม
จงทำให้ดีที่สุดด้วยสิ่งที่คุณเป็นและพัฒนาต่อไป เพราะแม้แมวของคุณจะรู้ว่ามันไม่มีวันเป็นสิงโต เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้มันเลิกกัโดด วิ่ง หรือออกล่า จงถ่อมตัวในสิ่งที่คุณทำและใจดีกับตัวเอง แต่ไม่ว่าคุณจะทำอะไรให้ทำอย่างเต็มที่
แมวรู้วิธีเพลิดเพลินกับชีวิตอย่างเต็มที่มาตั้งแต่เกิด ในขณะที่มนุษย์เรายังต้องเรียนรู้อีกมาก อาจไม่มีบทเรียนนี้ให้เราศึกษาในหนังสือปรัชญา แต่แมวสอนเรื่องนี้ให้เราและแสดงตัวอย่างที่ชัดเจนด้วยการเป็นตัวเอง
ให้แมวเป็นแรงบันดาลใจในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดการความสัมพันธ์ ด้านการจัดการกับความเครียด การรู้สึกปล่อยวาง หรือการสร้างความมั่นใจในตัวเอง ความสามารถเหล่านี้คือกุญแจที่ทำให้เรากลับมาควบคุมชีวิตของเราได้อีกครั้ง ในยามที่ชีวิตอยู่เหนือการควบคุม นับจากนี้จงใช้ชีวิตอย่างแมว จงทำให้การค้นหาความเพลิดเพลินและความสบายใจเป็นเป้าหมายในชีวิตคุณ
สนใจหนังสือ เมื่อแมวที่บ้านคุณผันตัวเองมาเป็นไลฟ์โค้ช
สามารถสั่งซื้อได้ที่ Shopee: https://s.shopee.co.th/1qL1BJoTpw
ซื้อผ่านลิงค์เป็นการสนับสนุนช่องครับ
Leave a comment