ตู้เย็น ช่วงก่อนสอนปลายภาค ไอ้นนท์ช่วยเก็งข้อสอบให้ผมล่วงหน้าตั้ง 2 สัปดาห์ ช่วงนั้นผมหัวหมุนมากเป็นพิเศษ และแปลกใจมากที่ไอ้นนท์ไม่กังวลเกี่ยวกับการสอบเลย วันธรรมดาหลังเลิกเรียน มันยังไปทำงานพิเศษที่ร้านกรีนเฮาส์คาเฟ่และลมเย็นบาร์จนถึงเที่ยงคืน เสาร์อาทิตย์ยังออกไปขี่รถรับส่งอาหาร ระหว่างที่มันไม่อยู่ด้วย ผมก็พยายามทบทวนหนังสือ มีวอกแวกไปเล่นเกมบ้างสักตาสองตาพอให้หายเครียด วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของทั้งผมและไอ้นนท์ ตามเวลาไอ้นนท์จะสอบเสร็จก่อน มันเลยบอกว่าจะมารออยู่ที่ห้องสมุดคณะ ผมสอบวิชาแคลคูลัสโดยใช้เวลาที่ให้มา 1 ชั่วโมงครึ่งก็ยังทำไม่ครบทุกข้อ แต่ไม่เป็นไร เท่าที่ทำได้ก็น่าจะพ้นเกรดเอฟแล้ว พอส่งกระดาษข้อสอบแล้ว ผมก็มาหาไอ้นนท์...
นนท์ ถึงแม้ผมจะคุ้นเคยกับคอนโดของไอ้ตู้เย็นแล้ว แต่พอมันไม่อยู่ ห้องนี้ดูเหมือนจะใหญ่เกินไปสำหรับอยู่คนเดียว ผมเกิดอาการคิดถึงมันขึ้นมา เกิดความรู้สึกเหงาขึ้นมา ทั้งที่แต่ก่อนอยู่ตามลำพังมาได้ตลอด พอห่างจากผม ไม่รู้ว่าไอ้ตู้เย็นจะรู้สึกเหงาและคิดถึงแบบเดียวกันหรือเปล่า อยู่ห้องก็ไม่มีอะไรให้ทำ วันนี้ผมเลยจะออกไปขี่รถรับส่งอาหารไวกว่าปกติละกัน ขณะกำลังจะลุกไปเตรียมตัว มือถือก็เด้งแจ้งเตือนข้อความใหม่ขึ้นมา ตู้เย็นถึงบ้านแล้วมาถึงปุ๊บ ป๊าก็ใช้กูเฝ้าร้านเลยเซ็งชิบหาย (¬、¬) ไอ้ตู้เย็นส่งภาพเซลฟี่นั่งหลังโต๊ะไม้สำหรับคิดเงินมาให้ผมดู หน้ามันเบื่อโลกกว่าปกติ นนท์เป็นเด็กดีนะ กลับมาจะเลี้ยงขนมอยู่โน่นอย่าลืมคิดถึงกูนะ ตู้เย็นตอนนี้คิดถึงมึงจะแย่อยากให้มึงมาด้วยกันจังแล้ววันนี้ไปทำงานป่าว? นนท์กำลังจะไป มึงทักมาพอดี...
ตู้เย็น อาบน้ำเย็น ๆ ชำระล้างเหงื่อไคลจนสะอาดสะอ้านแล้วผมก็สดชื่นขึ้นมาทันที ผมนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้องน้ำ กำลังจะเข้าไปแต่งตัวในห้องนอนก็เห็นไอ้นนท์นั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวี หัวเราะคิกคัก สายตาจ้องไปที่หน้าจอมือถือในมือ “ขำอะไรวะ แบ่งกูดูบ้างสิ” “พี่แองโจลี่ส่งคลิปที่มึงใส่ชุดมาสคอตมาให้ดู มึงนี่ใช้ได้เหมือนกันนะ ดุ๊กดิ๊ก ๆ น่ารักดี ไหนลองทำท่าดุ๊กดิ๊กให้กูดูหน่อย” “ไม่เอาโว้ย” “กูขอแชร์คลิปลงสตอรี่ในไอจีนะ” “ไม่ได้เว้ย กูอายคนอื่น” “มึงจะอายทำไม ไม่ได้เห็นหน้ามึงสักหน่อย แล้วอีก...
นนท์ ผมตามพี่แองโจลี่มาลองชุดกับพี่ไก่แจ้ เสื้อผ้าวันนี้มาในธีมสีแดงสดใสร้อนแรง พี่ไก่แจ้เลือกให้พวกเราคนละ 2 ชุด จากนั้นพาทุกคนมาที่หน้าเวทีเพื่อซ้อมเดินแบบ ซ้อมกันอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ได้พัก พี่แองโจลี่เอาน้ำเย็นมาให้ผมกับไมค์คนละขวด ผมรับมาดื่มแล้วถามหาไอ้ตู้เย็น “ไอ้ตู้เย็นอยู่ไหนเหรอพี่?” “ไปลองชุดมาสคอตกับพี่กุ้งเต้น เมื่อกี้พี่ตามไปดูมาละ ตู้เย็นใช้ได้เหมือนกันนะ พอใส่ชุดมาสคอตแล้วดูเป็นอีกคนไปเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะสวมบทบาทน่ารัก ๆ อย่างนั้นได้” “เหรอครับ ผมอยากเห็นจัง” “เดี๋ยวเริ่มงานก็ได้เห็นเองแหละ...
ตู้เย็น นานะบอกผมว่าเธอเป็นเอเซ็กซ์ชวลตอนที่เราไปร้านกรีนเฮาส์คาเฟ่ด้วยกัน เธอสังเกตเห็นไอ้นนท์ฮึดฮัดท่าทางเหมือนไม่พอใจ เธอก็สันนิษฐานว่ามันน่าจะโกรธผมกับเธอหรือเปล่า ตอนนั้นผมยังไม่เชื่อเธอ แต่ตอนนี้รู้จากปากของไอ้นนท์เองแล้วว่ามันหึงผมกับนานะจริง รสนิยมทางเพศ นอกจากชายจริงหญิงแท้ ผมก็รู้จักเกย์ เลสเบี้ยน ไบเซ็กซ์ชวลและทรานส์เจนเดอร์ แต่เอเซ็กซ์ชวลที่นานะพูดถึง ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน เธออธิบายว่าเอเซ็กซ์ชวลคือรสนิยมทางเพศแบบหนึ่งที่ไม่พิศวาส ไม่มีอารมณ์ทางเพศกับเพศไหนเลย วันนี้ผมมาติวหนังสือกับไอ้นนท์เหมือนเช่นทุกวัน พอมาถึงห้องสมุดประจำคณะก็เห็นมันนั่งรออยู่ในห้องประจำห้องเดิม ที่มันมักมาถึงก่อนเพราะมันเรียนภาคปกติที่ส่วนใหญ่จะเรียนที่ตึกเดียวกันนี้ พอเรียนเสร็จมันก็เดินลงมาที่นี่ได้เลย ส่วนผมที่เรียนภาคพิเศษ จะเรียนอีกตึกซะเป็นส่วนใหญ่ ต้องเสียเวลาเดินมา มาถึงผมก็เห็นไอ้นนท์สีหน้ายิ้มแย้มสดใสเหมือนเช่นปกติ...
นนท์ ถึงแม้ตอนนี้ผมจะไม่พร้อมพูดคุยอะไรกับไอ้ตู้เย็นสักเท่าไหร่ แต่มันก็มัดมือชกทำผมเลี่ยงไม่ได้ ผมตามมันขึ้นมาบนห้อง หวังจะคุยกับมันให้จบ ๆ ไป แต่มันก็ยึกยักไม่ยอมเข้าเรื่องสักที ในที่สุดมันก็พูดความในใจออกมาว่าช่วงนี้มันคิดว่าผมดูแปลกไป ผมจึงรีบตอบไปว่ามันต่างหากที่ดูแปลกไป ก็ช่วง 2-3 วันมานี้มันดูไม่ใช่ไอ้ตู้เย็นที่ผมรู้จักจริง ๆ นี่หน่า “หมายความว่าไงวะ กูก็เป็นกูปกติของกูเหมือนเดิม” ไอ้ตู้เย็นไม่ยอมรับ “แล้วที่มึงพูดว่ากูดูแปลกไปเนี่ย กูแปลกไปยังไงวะ?” “ก็… มึงพยายามหลบหน้ากู อารมณ์ไม่ดีใส่กู...
ตู้เย็น ไอ้นนท์กลับมาเป็นเหมือนครั้งก่อนอีกแล้ว ครั้งนี้ดูอาการรุนแรงกว่าครั้งก่อน และเห็นได้ชัดว่ามันโกรธผม เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ผมคิดว่าเราปรับความเข้าใจกันและกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว แต่พอค่ำนี้มันเห็นผมมาที่ร้านกับนานะก็แสดงอาการโกรธผมอย่างเห็นได้ชัด ถ้าตอนนี้ไม่ได้มีนานะอยู่ด้วย ผมคงออกไปตามไอ้นนท์แล้วถามจริง ๆ จัง ๆ ว่ามันเป็นอะไร ถ้าความผิดนั้นเกิดจากผม ผมยินดีขอโทษมันทุกประการ วันนี้ถึงแม้ผมจะไม่มีรถมอไซด์ไปรับนานะ แต่นัดของเราก็ไม่ล่ม เธอส่งข้อความมาบอกผมเมื่อตอนพักกลางวันว่ามอไซด์ของเธอซ่อมเสร็จแล้ว อยากจะเอาไปลองเครื่องยนต์หน่อยเลยจะมารับผม หลังจากที่ไปส่งไอ้หมอกซื้อของเสร็จ ผมก็มากับนานะ เธอถามผมว่าจะไปกินอะไรที่ร้านไหนดี วันนี้ผมเห็นคนแชร์ว่าที่ร้านกรีนเฮาส์คาเฟ่มีโปรโมชั่นซื้อ...
นนท์ หลังจากถ่ายงานกันมาตั้งแต่เช้า พี่จั๊บก็ให้พักเที่ยง ทีมงานสั่งข้าวกล่องมาเลี้ยง ของผมได้เป็นผัดพริกแกงไก่กับไข่ดาว พวกเราทุกคนล้อมวงกินด้วยกันที่พื้นหญ้า ไอ้ตู้เย็นกินหมดคนแรก มันลุกเอากล่องข้าวไปทิ้งแล้วมานั่งที่เก้าอี้พับ หยิบกีตาร์ของไอ้ดินปืนมาเล่น พอนานะได้ยิน เธอก็ลุกเดินไปหามัน “นายเล่นกีตาร์เป็นด้วยเหรอ เราว่าผู้ชายที่เล่นกีตาร์เท่ที่สุดเลย เล่นให้เราฟังบ้างสิ” “ฮ่ะ ๆ ก็เล่นพอได้นะ แต่ไม่เท่เท่าไอ้ดินปืนหรอก” ไอ้ตู้เย็นกับนานะคุยกันกระหนุงกระหนิง วันนี้ผมว่าไอ้ตู้เย็นมันดูสดใสกว่าปกติ ดูพูดเยอะกว่าที่เคย ยิ่งกับนานะที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก มันยิ่งพูดคุยสนุกด้วย...
หากพูดถึงซีรีส์ที่คนทั้งโลกรอคอย ซีรีส์ที่ปั้นเด็กไม่มีชื่อเสียงให้มายืนแถวหน้าของวงการบันเทิงได้ ซีรีส์ที่เป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดให้คนมาสมัครบริการ Netflix จะเป็นซีรีส์เรื่องไหนไม่ได้นอกจากเรื่องสเตรนเจอร์ ทิงส์ ที่ตอนนี้มีมาถึงซีซัน 5 ซึ่งเป็นซีซันสุดท้ายแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ผลงานท้ายสุดของจักรวาลในซีรีส์นี้ เพราะในปี 2026 จะมีอนิเมชันที่เรื่องราวอยู่ในช่วงระหว่างซีซัน 2 และ 3 ของซีรีส์ต้นฉบับออกฉายตามมาครับ สาเหตุที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกใจคนทั้งโลก และขยายจักรวาลมาได้ยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ นอกจากเนื้อเรื่องที่ลึกลับน่าติดตามแล้ว อีกเหตุผลคือแต่ละตัวละครในเรื่องดูมีมิติสมจริง มีปูมหลัง และมีแรงผลักดันในชีวิตที่แตกต่างกันไป...
ทุกนาทีในชีวิตสามารถเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต เหตุการณ์ฉุกเฉินไม่เลือกสถานที่เกิด ไม่ว่าจะเป็นบนถนน ในห้างฯ หรือแม้กระทั่งบ้านของพวกเราเอง การมีความรู้เบื้องต้นในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ช่วยให้เราลดความเสี่ยงที่เหตุการณ์นั้นจะอันตรายถึงชีวิตได้ครับ ไอติมเล่า ep นี้มาแนะนำเนื้อหาจากหนังสือ อยู่ให้ได้ ตายให้ดี: เรียนรู้นาทีชีวิตจากห้องฉุกเฉิน เขียนโดยคุณหมอสองท่านครับคือ หมอเจี๊ยบ พญ. ลลนา ก้องธรนินทร์ และหมอยุ้ย พญ. พรรณอร เฉลิมดำริชัย ในเล่มนี้เล่าว่าหมอฉุกเฉินต้องเจอกับอะไรบ้าง...
การได้อ่านหรือได้ฟังเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จ ถือเป็นทางลัดอย่างหนึ่งในการเรียนรู้ชีวิต โดยที่เราไม่ต้องรอให้พบเจอด้วยตัวเอง ยิ่งคนนั้นเป็นคนที่ใช้ชีวิตมานาน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ บทเรียนจากชีวิตของพวกเขาก็ยิ่งมีคุณค่า ไอติมอ่าน ep นี้มาแนะนำเนื้อหาจากหนังสือ Be Useful: Seven Tools for Life ชื่อภาษาไทยคือ จงทำตัวให้มีประโยชน์: 7 เครื่องมือสำหรับใช้ชีวิต เขียนโดยอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger)...
เพื่อน ๆ กำลังทุกข์ใจและเหนื่อยที่ต้องแบกรับความกดดันเอาไว้มากเกินไปอยู่หรือเปล่าครับ กำลังรู้สึกแย่ที่ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่นอยู่หรือเปล่า สังคมทุกวันนี้มีสารพัดเรื่องให้กลุ้มใจ แล้วเพื่อน ๆ เคยคิดบ้างไหมครับว่าปัญหาที่กำลังเจออยู่นี้ เคยมีคนอื่นเจอมาก่อนเราหรือเปล่า แม้ประวัติศาสตร์จะเต็มไปด้วยเรื่องราวของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ แต่เบื้องหลักชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นล้วนผ่านเรื่องราวมากมาย พวกเขาเป็นคนธรรมดาเหมือนกับพวกเรานี่แหละครับ การศึกษาประวัติศาสตร์ทำให้เรารู้ว่าทุกคนล้วนเคยผิดพลาดกันมาบ้าง และการจะได้มาซึ่งความสำเร็จบางครั้งต้องอาศัยเวลาที่เหมาะสม ไอติมฮีลใจ ep นี้มาแนะนำหนังสือคิดมากไปทำไม ขนาดพระพุทธเจ้ายังเคยทำพลาดเลย เขียนโดยฟุกาอิ ริวโนะซุเกะ หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องราวชีวิตของบุคคลที่เป็นที่รู้จักระดับโลกว่ากว่าที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จต้องล้มลุกคลุกคลานมายังไงบ้าง ในเล่มพูดถึงหลายคนเลยครับ แต่ผมขอเลือกเรื่องของคนที่ผมสนใจมาเล่าให้เพื่อน...
ปี พ.ศ. 2568 เป็นวาระครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีนอย่างเป็นทางการ แต่ในความเป็นจริงคนไทยและคนจีนมีความเชื่อมโยงกันมากว่า 2,000 ปีแล้ว โดยมีหลักฐานโบราณบ่งบอกว่าดินแดนแถบบ้านเรามีการค้าขายกับแผ่นดินจีนมาตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่น การค้าขายกับจีนสร้างความมั่งคั่งให้กับกรุงศรีอยุธยาและเมืองท่าต่าง ๆ รอบอ่าวไทยมาตลอดเวลายาวนานหลายร้อยปี ชาวจีนเข้ามาตั้งหลักปักฐานอยู่ในสยาม สร้างศาลเจ้า สร้างบ้าน สร้างร้านค้า และนำวัฒนธรรมแบบจีนติดตัวมาด้วย บางคำศัพท์ที่เราได้ยินหรือใช้ในชีวิตประจำวัน หลายคำก็เป็นคำที่ยืมมาจากภาษาจีน ไอติมเล่า ep นี้มาเล่าความหมายและที่มาของคำจีนคุ้นหู...
ในชีวิตประจำวันเราต้องพบเจอกับเรื่องมากมายที่ต้องอาศัยการเจรจาต่อรอง ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองขอลดราคาสินค้า ต่อรองกับลูกค้า หรือต่อรองเพื่อขอขึ้นเงินเดือน เทคนิคการต่อรองมีสอนกันมานานแล้ว แต่เทคนิคเหล่านั้นเน้นไปที่การท่องจำประโยคสำเร็จรูป ทั้งที่จริง ๆ แล้วการเจรจาต่อรองเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไม่ได้ เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับอารมณ์มากกว่าเหตุผลครับ ดังนั้นการต่อรองต้องมุ่งเน้นไปที่การจัดการกับอารมณ์ของอีกฝ่าย แทนที่จะยกเหตุผลต่าง ๆ นานามาคุยกันเหมือนหุ่นยนต์ที่ไร้ความรู้สึก ไอติมอ่าน ep นี้มาสรุปเนื้อหาจากหนังสือ Never Split the Difference จิตวิทยาต่อรอง เขียนโดยคริส...