ผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวสิงคโปร์เมื่อวันที่ 1-4 พ.ย. 2019 ถึงตอนนี้ก็นานแล้วล่ะ หลายปีได้แล้ว ตอนแรกก็ว่าจะไม่เขียนบันทึกเกี่ยวกับทริปนี้นะ จะเขียนแค่รีวิวเครื่องดื่มกระป๋องพอ แต่ช่วงโควิดไม่ได้ไปไหนเลย work from home อย่างเดียวน่าเบื่อมาก ประจวบกับไปเห็นกระทู้พันทิปโชว์ภาพถ่ายในวันที่สิงคโปร์ไร้นักท่องเที่ยวก็คิดถึงทริปที่ได้ไปขึ้นมา ทริปนี้เป็นทริปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของผมกับเพื่อนเลยนะ
การเดินทางในสิงคโปร์สะดวกสบายมาก มีรถไฟใต้ดินซอยแซกถึงทุกมุม แต่การเดินทางหลัก ๆ ของเราในทริปนี้เราเลือกนั่งรถเมล์เพราะต้องการชมวิวข้างทาง รถเมล์ที่นี่มีทั้งชั้นเดียวและสองชั้น สภาพใหม่มาก ขับดี จอดทุกป้าย วิธีขึ้นคือแตะบัตร EZ-Link, NETS FlashPay หรือบัตรยี่ห้ออื่น ๆ อะไรก็แล้วแต่ที่เราซื้อมา แตะตอนขึ้นกับตอนลง บัตรพวกนี้ใช้กับ mrt ได้ ใช้จ่ายของใน 7-11 ก็ได้
จุดแรกที่เรามากันคือย่านไชน่าทาวน์ ย่านนี้ไม่ได้มีแต่อะไรจีน ๆ อย่างเดียวนะ ย่านนี้ผสมผสานหลายวัฒนธรรมเอาไว้ด้วยกัน มีทั้งมัสยิดสีเขียวมินต์, วัดฮินดู และวัดพุทธสไตล์จีน ย่านนี้เป็นอีกที่ที่เหมาะกับการมาหาซื้อของฝาก อาหารการกินก็สมบูรณ์ มีร้านอาหาร ร้านหม้อไฟ บาร์ ศูนย์อาหาร
มัสยิดจาเม หรือบ้างก็เรียกมัสยิดชูเลีย เป็นมัสยิดที่เป็นที่นิยมที่สุดในสิงคโปร์ ตัวอาคารสวย ทาสีเขียวมินต์ ดูฮิปสเตอร์นะ ที่นี่ใจดีให้นักท่องเที่ยวเข้าฟรี เข้าไปดูอย่าเสียงดังก็พอ
วัดศรีมาริอัมมันต์ เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุด สร้างเมื่อ ค.ศ.1827 ตอนนั้นยังเป็นอาคารไม้ พอปี ค.ศ.1862 ได้บูรณะเป็นอาคารปูน ที่นี่เก็บเงินค่าเข้านะถ้าใครถือกล้องเข้าไป ผมเลยถ่ายรูปอยู่ข้างนอก และวันที่ไปในวัดทำพิธีอะไรสักอย่าง ไม่กล้าเข้าไปวุ่นวาย
เดิน ๆ มาเจอกราฟิตี้ เป็นรูปลุงขายไอติม หน้าลุงคุ้น ๆ ไหมพวกเรา
เดินมาจนถึงวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว วัดนี้สวยและยิ่งใหญ่จริง เป็นวัดสร้างใหม่เมื่อปี ค.ศ.2015 นี้เอง สร้างโดยอิงสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถัง ข้าง ๆ วัดเป็นถนนคนเดิน ขายของฝากของที่ระลึกเต็มไปหมด บ้างร้านขายสินค้าเหมือนกันแต่คนละราคา ใครมีเวลาลองเดินดูให้ทั่วก่อน
พอมืดเราก็มากินมื้อเย็นกันที่ Maxwell food center เป็นศูนย์อาหารที่รวมร้านอาหารสตรีทฟู้ดเอาไว้มากมาย ที่นี่เปิดตั้งแต่เช้า ตอนเราไปถึงหลายร้านปิดแล้ว บรรยากาศที่นี่ร้อน ๆ หน่อย คนเยอะ
มาถึงวันที่ 2 ของทริป วันนี้เราจะไป Universal Studio กัน โดยนั่งรถเมล์ไปแล้วไปต่อ monorail เข้าไปข้างในเกาะซานโตซ่า แถวที่เราพักกันคือย่านเกลัง มีตึกสูงน้อย ส่วนใหญ่เป็นห้องแถวแบบในรูป ย่านเกลังขึ้นชื่อว่าเป็นย่านโคมแดง มีบริการอย่างว่า แต่แถวนี้ไม่อันตราย เขาค้าขายไม่อึกทึก เราพักแถวนี้ 3 คืนเจอร้านอย่างว่ามาถามแค่ร้านเดียว พอปฏิเสธเค้าก็ไม่ตามตื้อ
มาถึงแล้ว... ที่ Universal Studio เปิดทุกวันนะ มีด้วยกัน 7 โซน 21 เครื่องเล่น เราไปวันเสาร์คนเยอะมาก อย่าหวังว่าจะเล่นได้ครบทุกเครื่องเล่น
ในนี้มีโซน water world เป็นการแสดงสดสตันแมน โชว์โคตรตื่นตา บู๊แอ็กชันมาก นักแสดงทุ่มสุดตัวทั้งเตะ ต่อย ตีลังการ โหนสลิง หลบระเบิด ใครไปที่นี่ต้องไปดูโชว์นี้ เปิดแสดงวันละ 2 รอบด้วยกัน ไปถึงก่อนได้นั่งข้างบน ถ้าไปช้าได้นั่งข้างล่างซึ่งเตรียมตัวเปียกจากการแสดง
รถไฟเหาะอันนี้คือสุดยอดแห่งความเสียว มี 2 รางนะสีแดงกับสีเทา เราทันเล่นแค่สีแดงเพราะสวนสนุกปิดซะก่อน 6 โมงเป๊ะ พนักงานออกมาต้อนคนกลับเลย
monorail ที่นั่งมาเมื่อเช้า บัตรที่ซื้อไว้ขามาต้องเก็บให้ดี เพราะมันใช้ตอนขากลับได้ด้วย ซื้อตั๋วครั้งเดียวได้ทั้งไปและกลับ
วันที่ 3 เรามาเดินดูเมือง เริ่มต้นที่กระทรวงเวทย์มนต์ เอ้ยไม่ใช่! ตึกรัฐสภาของสิงคโปร์
หน้าตึกหอศิลป์เป็นสนามปาดัง เห็นตึก Marina Bay Sands สวยมาก วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ มีเด็กนักเรียนนานาชาติมาซ้อมรักบี้กัน
และนี่คือแลนด์มาร์คสำคัญของสิงค์โปร์ ใครมาถึงต้องมาถ่ายรูปกับเจ้าเมอร์ไลอ้อนที่ Merlion Park จริง ๆ เจ้าเมอร์ไลอ้อนมีอยู่อีกหลายที่ แต่ที่นี่คือฮิตสุด หามุมถ่ายคู่โดยไม่ติดคนอื่นไม่ได้เลย
สะพานเฮลิกซ์ที่ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมากจากเกลียว DNA เราข้ามไปเพื่อไปยัง Gardens by The Bay
ถึงแล้ว Gardens by The Bay ที่นี่มี 2 โซนที่เก็บเงินค่าเข้า คือตรงนี้โซน Flower Dome และโซน Cloud Forest ตรง Flower Dome จัดแสดงต้นไม้และดอกไม้จากทั่วโลก ที่ต้นแปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนเยอะมาก
และนี่คือโซน Cloud Forest เป็นน้ำตกจำลองสูง 30 เมตร ข้างในน้ำตกเป็นอาคารที่จัดแสดงนิทรรศการ พันธุ์ไม้โซนนี้เป็นพวกพืชเขตร้อน เฟิร์นอะไรพวกนี้
เมื่อได้เวลา 19.45 น. การแสดงแสงสีเสียงก็เริ่มขึ้น เพลงที่เปิดเป็นเพลงมิวสิเคิล ใครที่ชอบดูหนังแนวนี้น่าจะคุ้นหูกับเพลงบ้าง
ดูจบเราก็เดินมาที่ ลาน Promenade เพื่อรอดูโชว์ตอนเวลา 20.30 น. โชว์นี้เป็นการฉายภาพเคลื่อนไหวไปยังม่านน้ำพุ สวยตระการตามาก ใครมา Gardens by The Bay ต้องแวะที่นี่ด้วยนะ
วันสุดท้ายแล้ว วันนี้ไม่มีแพลนไปไหนเพราะต้องบินกลับไทยตอนเที่ยง ตอนเช้าเราเลยไปแวะร้านติ่มซำ Wen Dao Shi เพื่อกินอาหารเช้า ร้านหาค่อนข้างยากเพราะไม่มีป้ายชื่อ เจ้าของร้านบอกให้จำชื่อร้านเป็น 126 แทน เป็นบ้านเลขที่ของร้านจะหาง่ายกว่า