ทองคำ ชายผู้กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวร่วมกับแฟนหนุ่มชื่อว่า เสก ทั้งคู่ทำสวนทุเรียนอยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทองคำเป็นคนลงเงิน ส่วนเสกเป็นคนลงแรง น้ำพักน้ำแรงที่พวกเขาลงไปกำลังจะผลิดอกออกผล ต้นทุเรียนในสวนกำลังออกดอก ทว่าเสกประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเสียก่อน
เมื่อเสกไม่อยู่ แทนที่สวนทุเรียนทั้งหมดจะตกเป็นของทองคำ แฟนหนุ่มที่ลงแรงสร้างมาด้วยกัน แต่กฏหมายไม่ได้รองรับความรักของทั้งคู่ ชื่อในโฉนดที่ดินเป็นชื่อเสก ตามกฏหมายสวนทุเรียนแห่งนี้จึงตกเป็นของแม่แสง แม่บังเกิดเกล้าของเสก ทองคำพยายามโน้มน้าวให้แม่แสงยกสวนทุเรียนคืนให้ตน แต่แม่แสงไม่ยอม เพราะมองว่าแกได้สวนนี้มาด้วยความชอบธรรม
แม่แสงมี โม๋ หญิงชาติพันธุ์ที่เป็นเหมือนลูกบุญธรรม ซึ่งดูแลแม่แสงมาตั้งแต่แกประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้มาเป็นเวลา 20 ปี โม๋เป็นคนตัวเปล่า ไม่มีอะไรเลยแม้แต่บัตรประชาชน เธอหวังว่าความกตัญญูที่เธอดูแลแม่แสงมาครึ่งค่อนชีวิต แม่แสงจะตอบแทนเธอโดยการยกสวนทุเรียนแห่งนี้ให้เป็นมรดก ดังนั้นจึงเกิดศึกแย่งชิงตำแหน่งลูกรักของแม่แสง ที่แข่งชิงดีชิงเด่นกันระหว่างทองคำและโม๋
ผมดูเรื่องนี้ในสัปดาห์แรกที่หนังเข้าโรงภาพยนตร์ แต่ไม่รู้จะเขียนรีวิวถึงเรื่องนี้ยังไงดี ไม่รู้ว่าจะหยิบประเด็นไหนมาพูดถึง เพราะเรื่องนี้มีหลายหัวข้อให้พูดถึงมาก หัวข้อที่หลายคนหยิบมารีวิวคือเรื่องความไม่เท่าเทียม ซึ่งประเด็นนี้ทั้งทองคำและโม๋ต่างพบเจอ
ทองคำต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากและเจ็บปวดกับการที่กฏหมายไม่รองรับความรักของเขากับเสก คนรักเพศเดียวกันเช่นเขาไม่มีอำนาจจัดการกับความเป็นความตายของคนรัก ไม่มีสิทธิ์ได้รับสืบทอดทรัพย์สมบัติ ทั้งที่มีประจักษ์พยายานยืนยันได้ว่าร่วมสร้างมาด้วยกัน
ส่วนโม๋เป็นคนชายขอบที่ไม่ได้รับการเหลียวแลใด ๆ เธอไม่มีตัวตนในทางกฏหมายของประเทศที่เธอเกิด ผลที่ตามมาคือไม่สามารถเข้าถึงการศึกษา และส่งผลต่อมาเป็นทอด ๆ ทำให้เธอไม่มีวุฒิสำหรับนำไปสมัครทำงานดี ๆ ที่จะช่วยพลิกความเป็นอยู่ของเธอให้ดีขึ้น ชะตากรรมของเธอเหมือนถูกกำหนดมาว่าไม่มีทางหนีไปจากการเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของแม่แสงไปได้
ด้วยความเป็นคนที่ไร้ต้นทุนนี้เอง เมื่อเห็นโอกาสที่จะได้พลิกชะตาชีวิต ทำให้โม๋ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครอบครองสวนทุเรียน ทั้งการเล่นสงครามประสาทและหาทางตัดแข้งตัดขาคู่แข่งอย่างทองคำ และพยายามเอาอกเอาใจแม่แสงมากขึ้นเป็นพิเศษ
ด้านของทองคำ แน่นอนว่าไม่ยอมยกสวนทุเรียนที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายให้คนอื่นไปง่าย ๆ สวนทุเรียนแห่งนี้นอกจากมูลค่าในแง่ทรัพย์สินแล้ว ยังมีคุณค่าทางจิตใจ เพราะเป็นสถานที่เปี่ยมความทรงจำ เป็นสถานที่ที่เคยใช้ชีวิตพบเจอความสุขความทุกข์ร่วมกับคนรัก และยังเป็นสถานที่ฟูมฟักความหวังของทั้งสองด้วย สุดท้ายถ้าต้องเสียมันไปจริง ๆ สุดท้ายถ้าทองคำไม่ได้ครอบครองก็อย่างหวังว่าคนอื่นจะได้มันไป
ตัวละครทั้งสองฝั่งมีแรงผลักดันให้ทุ่มสุดตัวกันทั้งคู่ สำหรับเศรษฐีที่ครอบครองที่ดินเป็นพันไร่ อาจรู้สึกว่าสวนทุเรียนเล็ก ๆ ไม่มีค่าพอให้เอาเวลาไปเสียเพื่อให้ได้มา แต่สำหรับทองคำและโม๋ สวนทุเรียนนี้คุ้มค่ากับการเอาทุกอย่างเข้าแลก แม้จะด้วยชีวิตของพวกเขาก็ตาม
ของสิ่งเดียวกัน แต่คนให้ราคาต่างกัน
ประเด็นนี้ทำให้ผมนึกถึงข่าว ๆ หนึ่งเมื่อหลายปีที่แล้ว ข่าวชายคนหนึ่งถูกฆ่าปาดคอเพื่อชิงไอโฟน ข่าวนี้ฝังใจผมมาก มันทำให้ผมรู้สึกหดหู่ใจว่าทำไมเจ้าของไอโฟนถึงถูกคนชั่วตีราคาชีวิตต่ำกว่าไอโฟนเครื่องหนึ่งที่ปัจจุบันนี้ก็ตกรุ่นไปแล้ว ความรู้สึกนี้คอยเตือนผมเสมอว่าอย่าเอาตัวเองไปยุ่งกับคนไร้ราคา ความคิดแบบนี้อาจดูแบ่งแยก มองคนไม่เท่ากัน แต่ข่าวอาชญากรรมทุกวันนี้ทำให้ผมมองโลกให้เป็นอุดมคติแบบนั้นไม่ลง