ภูเขาผีดูดเลือด - "ดาร์เรน แชน" ออกเดินทางแสนทรหดที่สุดในชีวิต เพื่อไปพบปะกับพี่น้องผีดูดเลือด

ภูเขาผีดูดเลือด - "ดาร์เรน แชน" ออกเดินทางแสนทรหดที่สุดในชีวิต เพื่อไปพบปะกับพี่น้องผีดูดเลือด

เรื่องราวในเล่มนี้ห่างจากเล่มที่แล้วถึง 6 ปี จนถึงตอนนี้ ดาร์เรน แชน ใช้ชีวิตในฐานะคนครึ่งผีดูดเลือดมาแล้ว 8 ปี แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่ดูโตขึ้นเลย ขณะที่ เอฟรา ฟอน เด็กงูผู้เป็นเพื่อนสนิทของดาร์เรนในคณะละครซีร์ก ดู ฟรีก กลับโตเป็นหนุ่มและเริ่มทำอะไรที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น จนทั้งสองไม่สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน

เล่มนี้ดาร์เรนต้องติดตามคุณเครปลีย์ออกเดินทางไปยังภูเขาผีดูดเลือด เพื่อไปเข้าร่วมการประชุมสภาผีดูดเลือด ซึ่งจัดขึ้น 12 ปีครั้ง คุณเครปลีย์ต้องไปให้ปากคำกรณีที่ถ่ายเลือดแก่ดาร์เรนให่กลายเป็นคนครึ่งผีดูดเลือด

เส้นทางขึ้นไปยังภูเขาผีดูดเลือดเป็นหิมะ แถมยังมีกฏแปลก ๆ อย่างการไม่ให้ใส่รองเท้าและห้ามสวมเสื้อกันหนาว คุณเครปลีย์บอกว่ากฏมีไว้เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของผีดูดเลือด ผู้ที่คู่ควรเท่านั้นจึงจะขึ้นไปยังภูเขาผีดูดเลือดได้ ในการเดินทางครั้งนี้ นอกจากดาร์เรนและคุณเครปลีย์แล้ว ยังมีคนจิ๋วของคุณไทนีมาร่วมเดินทางด้วยอีก 2 คน

เล่มนี้เนื้อหาไม่ค่อยมีอะไรนัก เหมือนปูทางไปสู่เล่มต่อไป ต้นเรื่องมีฉากแอ็คชั่นบนภูเขาหิมะบ้าง และกลางเรื่องเป็นต้นไปบรรยายถึงวิถีชีวิตและทัศนคติในการใช้ชีวิตของผีดูดเลือด, ตำนานต่าง ๆ และความขัดแย้งของผีดูดเลือดกับปีศาจดูดเลือด

เล่มที่แล้วสนุกมาก หากเล่มที่แล้วผมให้คะแนน 10/10 มาเล่มนี้ผมหั่นครึ่ง ให้คะแนนเพียง 5/10 เท่านั้น อย่างที่บอกว่าเล่มนี้เป็นการปูไปสู่เล่มต่อไป หวังว่าเล่มหน้าจะสนุกสุด ๆ เหมือนที่เคยประทับใจมากก่อนนะครับ

ด้านล่างนี้ผมขอเขียนสรุปเนื้อหาของเล่มนี้ไว้คร่าว ๆ นะครับ

คุณเครปลีย์บอกแบบปุบปับกับดาร์เรนว่าต้องออกเดินทางไปยังภูเขาผีดูดเลือด เพื่อเข้าร่วมการประชุมสภาผีดูดเลือด และคุณเครปลีย์ต้องไปแก้ต่างให้ตัวเองแก่บรรดาเจ้าชายผีดูดเลือด ในกรณีที่เขาถ่ายเลือดให้เด็กอย่างดาร์เรนกลายมาเป็นครึ่งคนครึ่งผีดูดเลือด

ก่อนออกเดินทางคุณไทนีได้ขอให้คุณเครปลีย์พาคนจิ๋ว 2 คนร่วมเดินทางไปด้วย คุณไทนีเป็นคนที่ทุกคนเกรงใจและเกรงกลัว คุณเครปลีย์จึงต้องยอมให้คนจิ๋วเดินทางไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้

ภูเขาผีดูดเลือดเป็นภูเขาหิมะ ที่มีกฏแปลก ๆ ว่าห้ามใส่รองเท้าและห้ามใส่เสื้อคลุมกันหนาว กฏนี้มีไว้เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของผีดูดเลือด แต่ระหว่างทางขึ้นเขาจะมีถ้ำให้นักเดินทางหลบภัยหนาวอยู่เป็นระยะ ระหว่างทางพวกเขาเจอคุณแกฟเนอร์ ผู้เป็นมือปราบผีดูดเลือด เพื่อนเก่าแก่ของคุณเครปลีย์ ทั้งหมดจึงเดินทางไปด้วยกัน

ระหว่างทางดาร์เรนเจอกับสุนัขป่าฝูงหนึ่ง พวกมันเป็นมิตร และคุณเครปลีย์เสริมให้ว่าสุนัขป่าพวกนี้เหมือนญาติของผีดูดเลือด เพราะพวกมันมีกลิ่นเดียวกับผีดูดเลือด คณะนักเดินทางจึงได้เพื่อนร่วมเดินทางมาเพิ่ม

ตอนที่คุณเครปลีย์และคุณแกฟเนอร์ออกไปลาดตระเวนเส้นทาง ดาร์เรนเจอเข้ากับหมีตัวใหญ่ที่บ้าคลั่ง เขา พร้อมด้วยคนจิ๋วและฝูงสุนัขป่าช่วยกันต่อสู้กับหมียักษ์ตัวนั้น พวกเขาปราบมันลงได้ แต่คนจิ๋วคนหนึ่งเสียชีวิตจากการต่อสู้ครั้งนี้

คุณเครปลีย์และคุณแกฟเนอร์กลับมา และได้สำรวจดูซากหมี พบว่ามันไปกินเนื้อของปีศาจดูดเลือดมา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มันบ้าคลั่ง พวกเขาออกสำรวจบริเวณรอบ ๆ และพบซากปีศาจดูดเลือดฝังไว้ พวกเขาสันนิษฐานว่าอาจมีปีศาจดูดเลือดตัวอื่นอยู่ใกล้ ๆ จึงรีบออกเดินทางต่อ

ตอนนั้นเองที่คนจิ๋วอีกหนึ่งคนที่รอดชีวิตยอมเปิดปากพูด นี่เป็นครั้งแรกที่ดาร์เรนได้ยินคนจิ๋วพูด คนจิ๋วคนนี้มีชื่อว่า ฮาร์แคต มัลดส์ เขาเล่าว่าจุดประสงค์ที่คุณไทนีให้เขาร่วมเดินทางมาด้วยเพราะต้องการให้มาบอกข่าวแก่เจ้าชาย ข่าวที่ว่าคือคำเตือนถึงเรื่องพญาปีศาจดูดเลือดที่กำลังจะตื่นขึ้น

พญาปีศาจดูดเลือดคือผู้นำของปีศาจดูดเลือด ที่จะนำพรรคพวกตัวเองมากำจัดผีดูดเลือดให้สิ้นซาก คุณไทนีเป็นใครก็ไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่คุณไทนีมีบุญคุณต่อเหล่าผีดูดเลือดมานาน เขาสร้างวังให้ผีดูดเลือด และมอบศิลาเลือดให้ ซึ่งศิลานี้มีไว้เพื่อเชื่อมจิตของผีดูดเลือดทุกตนไว้ด้วยกัน

คณะเดินทางมาถึงวังผีดูดเลือดที่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำบนภูเขา ดาร์เรนได้เรียนรู้วิถีชีวิตและทัศนคติของผีดูดเลือด หลังจากนั้นเข้าก็ต้องขึ้นศาลพร้อมกับคุณเครปลีย์ และได้ข้อสรุปว่าดาร์เรนต้องเข้ารับการทดสอบเพื่อให้ผีดูดเลือดตนอื่นยอมรับ การทดสอบที่มีแค่ผ่านกับไม่ผ่าน ซึ่งการไม่ผ่านหมายถึงการเสียชีวิตขณะเข้ารับการทดสอบ

จบเล่ม 4