เคอร์บี้ เป็นแฟรนไชส์หนึ่งที่อยู่มาอย่างยาวนานของค่ายเกมนินเทนโด เริ่มต้นตั้งแต่สมัยเกมบอยหน้าจอขาวดำที่ยังแสดงผลด้วยความละเอียดแค่ไม่กี่ร้อยพิเซล พัฒนาเคียงคู่มาริโอ้จนกลายเป็นที่จดจำในฐานะเกม platformer มุมมองแบบด้านข้าง ที่โดดเด่นด้วยความสามารถเลียนแบบพลังของศัตรู จนมาภาคล่าสุดในปี 2022 ที่เคอร์บี้พลิกโฉมครั้งใหญ่ มาเป็นเกม 3d platformer อย่างสมบูรณ์
Kirby and the Forgotten Land เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเคอร์บี้ถูกมิติลึกลับดูดเข้าไปในโลกที่ล่มสลาย สิ่งมีชีวิตที่ชื่อ Waddle Dees ซึ่งเป็นประชากรหลักของโลกนี้ถูกจับตัวไปแทบหมดโลก โดยปีศาจจอมร้ายกาจ Beast Pack เคอร์บี้ได้พบกับ Elfilin สิ่งมีชีวิตลึกลับที่หน้าตาเหมือนกระรอกบินได้ ทั้งสองออกผจญภัยไปในดินแดนรกร้าง เพื่อช่วยเหลือเหล่า Waddle Dees และฟื้นฟูให้โลกใบนี้กลับมาสวยงามอีกครั้ง
ภาคนี้ยังคงรูปแบบเป็น stage based ที่แบ่งการเล่นออกเป็นด่านใหญ่ธีมต่าง ๆ และมีด่านย่อยอยู่ข้างในนั้นอีกที ไม่ได้เป็นเกม open world ที่ให้อิสระผู้เล่นสำรวจพื้นที่ตรงไหนก่อนก็ได้ แต่บังคับกลาย ๆ ให้เล่นเรียงลำดับด่าน ระหว่างเล่นมีปลดล็อกด่านมินิเกมให้แว๊บไปเล่นเปลี่ยนสีสันบ้าง ภาคนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเกม Super Mario 3D World
มาภาคนี้ copy ability ของเคอร์บี้พัฒนาไปอีกขั้น นอกจากเลียนแบบความสามารถของศัตรูได้แล้ว ภาคนี้เคอร์บี้ใช้ประโยชน์จากข้าวของรอบตัวได้ด้วยความสามารถ mouthful ที่จะดูดของที่ใหญ่กว่าตัวเคอร์บี้มาก ๆ เช่น รถ แล้วเคอร์บี้ก็จะกลายเป็นรถ ขับไปชนศัตรูหรือกำแพงได้, ดูดกรวยจราจร แล้วเคอร์บี้จะกระโดดพุ่งหัวลงมาเจาะพื้นได้, ดูดซุ้มประตูรั้วเหล็ก แล้วเคอร์บี้จะเหินเวหาได้, ดูดอัฒจรรย์ แล้วเคอร์บี้จะใช้ตัวทับทุกอย่างได้ เป็นต้น
ความสามารถ mouthful เพื่อความสนุกให้แก่เกมได้มาก ไอเดียนี้ดีมาก แสดงให้เห็นว่าไอเดียของทีมงานค่ายนินเทนโดไม่มีที่สิ้นสุด เกมของค่ายขายไอเดีย โดยไม่จำเป็นต้องภาพสวยก็เล่นสนุกได้ ทุกด่านพาเราไปเจอความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ทำให้เล่นจบด่านหนึ่งแล้ว อยากเล่นต่ออีกสักด่าน จนติดงอมแงมไม่เป็นอันทำอะไร
เกมนี้ยังมีส่วนที่เป็น puzzle ให้เราใช้ความสามารถของเคอร์บี้ในการแก้ปัญหา แม้จะดูเป็นเกมเล่นง่าย ๆ เบาสมอง แต่ก็มีช่วงที่ต้องขบคิดเหมือนกัน ซึ่งทำให้เกมครบรสมากยิ่งขึ้น ตัวเกมไม่ได้ยาก ตัวละครน่ารักน่ากอด สีสันในเกมสดใสสวยงาม เป็นอีกหนึ่งเกมคุณภาพของค่ายนินเทนโด
