ฆาตกรรมหลอนในคืนผีดุ - เด็กผู้หญิงจอมโกหกบอกทุกคนว่าเคยเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรม ไม่มีใครเชื่อเธอจนกระทั่งเธอถูกฆาตกรรมซะเอง

ฆาตกรรมหลอนในคืนผีดุ - เด็กผู้หญิงจอมโกหกบอกทุกคนว่าเคยเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรม ไม่มีใครเชื่อเธอจนกระทั่งเธอถูกฆาตกรรมซะเอง

จอยซ์ เด็กผู้หญิงที่ชอบพูดโกหก ในวันฮาโลวีนเธอได้ไปช่วยจัดงานปาร์ตี้และได้พูดในงานว่าเธอเคยเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรม หลายคนไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องโกหกของเธอ แต่พอถึงคืนงานเลี้ยง เธอกลับถูกฆาตกรรม คดีนี้ยอดนักสืบปัวโรต์ถูกเรียกตัวมาทำการไขคดี ยิ่งเขาสืบยิ่งพบว่าชุมชนนี้ซุกซ่อนความลับซับซ้อนไว้มากมาย และจอยซ์ที่ทุกคนตีตราว่าเป็นจอมโกหก เรื่องที่เธอเล่าว่าเคยเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมอาจเป็นเรื่องจริง

ฆาตกรรมหลอนในคืนผีดุ (Hallowe'en Party) เป็นผลงานลำดับที่ 41 ในชุดนักสืบ เฮอร์คูล ปัวโรต์ ของนักเขียนรหัสคดีหญิง อกาธา คริสตี้ ผลงานเรื่องนี้ถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์เรื่อง A Haunting in Venice ที่ออกฉากในปี 2023 ผมยังไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ได้ยินมาว่าภาพยนตร์ดัดแปลงจากนิยายไปเยอะมาก จนแทบเป็นอีกเรื่อง อีกคดีหนึ่งไปเลย

หากนำงานเขียนของ อกาธา คริสตี้ มาเทียบกับงานเขียนของ เซอร์ อาเธอร์ โคนัน ดอยล์ ผมว่าสำนวนและรูปแบบการเล่าของอกาธาอ่านง่ายกว่า ในนิยายชุดเชอร์ล็อก โฮมส์ ดำเนินเรื่องในมุมมองบุคคลที่หนึ่งซึ่งคือหมอวัตสัน เป็นการดำเนินเรื่องโดยการเน้นการบรรยายซึ่งค่อนข้างยาวเหยียด สำนวนแปลค่อนข้างเก่าและอ่านยาก และการที่ผู้อ่านรับสารจากมุมมองของคน ๆ เดียวทำให้การรู้เห็นอะไรค่อนข้างแคบ อ่านไปหลาย ๆ เล่มมีความน่าเบื่อเกิดขึ้นมาบ้าง

ส่วนนิยายชุดเฮอร์คูล ปัวโรต์ ดำเนินเรื่องโดยมุมมองบุคคลที่สาม ตามแบบนิยายปกติทั่วไปที่เราคุ้นเคย ข้อดีคือคนอ่านคุ้นกับเล่าเรื่องรูปแบบนี้ ผู้เขียนสามารถสลับไปเล่าเรื่องจากมุมของคนโน้น คนนี้เมื่อไหร่ก็ได้ ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมของเหตุการณ์ได้กว้างกว่า ส่วนตัวผมชอบสไตล์การเขียนของอกาธามากกว่า หากเทียบกับโฮมส์

พูดถึงตัวนิยายเรื่องนี้บ้าง ผมโดนตกเพราะปกสวย ชื่อเรื่องชวนอ่านดี ดูก้ำกึ่งระหว่างนิยายสืบสวนกับนิยายสยองขวัญ ก่อนอ่านคาดหวังว่าจะได้พบกับบรรยากาศแบบโกธิค แต่พอได้อ่านพบว่าเล่มนี้คือนิยายสืบสวนล้วน ไม่มีคืนผีดุอะไรทั้งนั้น รูปแบบการสืบสวนของปัวโรต์คือการเข้าไปพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องกับคดีแบบตัวต่อตัว แล้วจับสังเกตพฤติกรรมและน้ำเสียงของผู้ให้ปากคำ จึงมีหลักจิตวิทยาเข้ามาแซมนิด ๆ ทำให้อ่านสนุกขึ้น

เรื่องนี้ประมาณ 80% แรกของเล่มเล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป ตัวละครค่อนข้างเยอะและเกี่ยวโยงกันไปมา ระหว่างอ่านต้องอาศัยสติในการจดจำให้ได้ว่าตัวละครนี้เป็นใคร อยู่กับใคร ทำอะไร มีตัวตนอยู่ในปัจจุบันหรือในอดีต ระหว่างอ่านไม่ได้คาดหวังว่าจะเจออะไรพลิกพลัน จนมา 20% ท้ายของเรื่องที่เฉลยทุกอย่าง ค่อนข้างเซอร์ไพรซ์กับความทะเยอทะยานของคนร้าย

ฆาตกรรมหลอนในคืนผีดุ เล่มนี้ไม่ยาวครับ มี 240 หน้า จัดพิมพ์แบบเปลี่ยนปกใหม่โดยสำนักพิมพ์ words ที่รีแบรนด์มาจากแพรวสำนักพิมพ์ ราคา 295 บาท หวังว่าทางสำนักพิมพ์จะพิมพ์นิยายชุดปัวโรต์เล่มอื่นแบบเปลี่ยนปกใหม่ออกมาอีกครับ