ครอบครัวมิตเชลล์ประกอบไปด้วย ลินดา คุณแม่จิตใจดีผู้คอยสนับสนุนทุกคนในครอบครัว, ริค คุณพ่อผู้ชื่นชอบการล่าสัตว์ เขาเข้าหาลูก ๆ ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่, เคธี ลูกสาวคนโตผู้เป็นเนิร์ดด้านภาพยนตร์ ชอบถ่ายหนังสั้นเป็นงานอดิเรก และ แอรอน ลูกชายคนเล็กผู้ชื่นชอบไดโนเสาร์ มีนิสัยขี้อายและตื่นกลัว
เคธีมักขัดแย้ง ความเห็นไม่ลงรอยกับพ่อของเธอบ่อย ๆ พ่อชอบถามว่าเธอจะเอายังไงกับชีวิต พอบอกไปว่าอยากทำหนัง พ่อก็ถามกลับมาว่างานแบบนั้นจะเลี้ยงชีพได้ยังไง ในเมื่อคนที่บ้านไม่สนับสนุนความฝัน เคธีจึงอยากออกไปจากที่นี่ อยากเข้าสังคมที่มีแต่คนที่เข้าใจหัวอกเดียวกัน
แล้วความฝันของเธอก็สำเร็จ เมื่อสอบเข้ามหาลัยสอนทำภาพยนตร์ได้ เคธีตั้งตารอวันที่จะได้ไปมหาลัย ได้เจอเพื่อนคอเดียวกัน แต่พ่อของเธอกลับวางแผนให้ทั้งครอบครัวขับรถข้ามประเทศเพื่อไปส่งเคธีที่มหาลัย เพื่อที่จะฟื้นความสัมพันธ์กับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย
ทริปนี้อาจจะเป็นทริปธรรมดาทั่วไป ถ้าไม่เกิดการปฎิวัติของกองกำลังหุ่นยนต์ pal ที่เกลียดชังมนุษย์ ต้องการจับมนุษย์ทุกคนบนโลกเพื่อส่งออกไปนอกโลก ครอบครัวมิตเชลล์คือกลุ่มผู้เหลือรอดสุดท้าย อนาคตของมวลมนุษยชาติฝากไว้ในมือของพวกเขา
หนังเรื่องนี้สร้างโดย Sony Pictures Animation ที่เคยมีผลงานสุดจัดจ้านอย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse เดิมทีเรื่องนี้วางแผนจะฉายในโรงภาพยนตร์ตามปกติในชื่อ Connected แต่ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้เปลี่ยนแผนนำมาฉากทาง Netflix แทน และเปลี่ยนชื่อเป็น The Mitchells vs. the Machines
จริง ๆ พล็อตแนวกลุ่มคนไม่เอาไหน ต้องรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่อย่างการกอบกู้โลก ไม่ใช่พล็อตใหม่แต่อย่างใด และประเด็นความไม่ลงรอยกันของคนในครอบครัว หนังหลายเรื่องก็หยิบจับมาเล่าจนเกร่อแล้ว สองส่วนผสมนี้ว่ากันตามจริงมันไม่ได้สดใหม่ แต่เป็นสูตรสำเร็จที่ขายได้ พลิกแพลงสัหน่อยคนก็ชอบเพราะเสพง่าย และประเด็นครอบครัวมันเป็นอมตะ เป็นประเด็นที่หลายครอบครัวกำลังเผชิญหรือเคยเผชิญ ทำให้ดูแล้วอินง่าย
งานด้านภาพไม่มีอะไรต้องห่วงเลยสำหรับ Sony Pictures Animation ที่ผลิตงานแอนนิเมชั่นมาตั้งแต่ปี 2002 แถมเรื่องนี้ยังฉูดฉาดด้านการนำเสนอที่ใส่ doodle หรือ filter เลียนแบบคลิปวิดีโอที่เราโพสตาม social media มุกตลกก็ชวนขำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผิดที่ผิดทาง
ดูไปเรื่อย ๆ เราจะรู้สึกอินและรักครอบครัวมิตเชลล์ไปโดยไม่รู้ตัว ถ้าดูหนังมาเยอะ ๆ ก็คงจะพอเดาตอนจบได้ แต่ถึงยังงั้นระหว่างดูเราก็ยังคอยลุ้นเอาใจช่วยพวกเขาไปจนจบเรื่อง แอนนิเมชั่นเรื่องนี้การันตีด้วยคะแนน Rotten Tomatoes สูงถึง 97% ห้ามพลาดแล้วล่ะแบบนี้
ใครที่ดูแล้วชอบส่วนผสมแบบนี้ ผมแนะนำแอนนิเมชั่นที่เล่าประเด็นความสัมพันธ์ครอบครัวให้อีกเรื่อง คือเรื่อง The Croods ที่ฉายปี 2013 ผลิตโดยค่าย DreamWorks Animation เรื่องนี้ทำได้ดีไม่แพ้กัน
สำหรับเรื่อง The Mitchells vs. the Machines บ้านมิตเชลล์ปะทะจักรกล สามารถรับชมได้ที่ Netflix
