เจ้าแด่น หมาน้อยเพื่อนรัก - มิตรภาพของชายชรากับเพื่อนใหม่สี่ขา ที่ทำให้มุมมองต่อโลกของเขาเปลี่ยนไป

เจ้าแด่น หมาน้อยเพื่อนรัก - มิตรภาพของชายชรากับเพื่อนใหม่สี่ขา ที่ทำให้มุมมองต่อโลกของเขาเปลี่ยนไป

ถ้าผมจำไม่ผิด หนังสือเล่มนี้คือวรรณกรรมเล่มแรกที่ยืมมาอ่านจากห้องสมุดโรงเรียน สมัยเข้า ม.1 ใหม่ ๆ ช่วงนั้นไม่ได้ชอบอ่านหนังสือขนาดนี้ เลยอ่านหนังสือช้ามาก เบื่อ ๆ แล้วไปทำอย่างอื่น เล่มนี้มี 123 หน้า สมัยนั้นอ่านหลายวันอยู่ แต่พอตอนนี้ 2 ชม. ก็จบแล้ว

หนังสือเล่าถึงคุณเอี่ยม ชายชรามหาเศรษฐี ผู้สร้างบริษัทยิ่งใหม่มาด้วยน้ำมือตัวเอง ตอนนี้เขาเกษียณแล้วให้ลูกชายรับช่วงต่อไป คุณเอี่ยมเป็นคนแข็งกร้าว โมโหง่าย วัน ๆ อยู่แต่ในห้องไม่ออกไปพบปะผู้คน

ตัวละครดำเนินเรื่องคือ สันติภพ เด็กชายอายุ 10 ขวบที่ไม่มีชื่อเล่น ผู้ฝันอยากเป็นทหารจึงแอ็กติ้งเป็นทหารอยู่ตลอดเวลา สันติภพเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของคุณเอี่ยม คือรับคำสั่งไปบอกคนงาน คอยอยู่นวดบีบไม่บีบมือให้คุณเอี่ยม

วันหนึ่ง ไจไหม เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงมาขอเข้าพบคุณเอี่ยม และขอให้ชายชรารับเลี้ยงหมาจรจัดมาอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงา ทีแรกคุณเอี่ยมปฏิเสธเพราะไม่ชอบหมา แต่ถูกไจไหมปรามาส ด้วยความกลัวเสียหน้าคุณเอี่ยมเลยไปรับหมามา 1 ตัวชื่อ เจ้าแด่น

เจ้าแด่นเป็นหมาหน้ายิ้ม คนงานในบ้านต่างชอบมัน ตั้งแต่รับมันมาเลี้ยงบรรยากาศในบ้านก็เปลี่ยนไป รวมถึงคุณเอี่ยมที่เปิดใจ ยอมออกไปข้างนอก ไปสูดอากาศ ไปดูพระอาทิตย์ตก ออกไปคุยกับชาวบ้าน จนนึกเสียดายเวลาที่ผ่านมาที่ตัวเองไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

ถึงเล่มนี้จะเป็นเล่มเล็ก ๆ บาง ๆ แต่ก็มีคำพูดกินใจชวนให้คิดจาก ป้าฉวี ผู้จัดการบ้านร่างตุ้ยนุ้ย ฉากที่คุณเอี่ยมตัดเป็ดยางของเล่นเจ้าแด่น ป้าฉวีพูดกับสันติภพว่า

เป็ดน่ะไม่มีชีวิต แต่เจ้าแด่นมีชีวิตนะ มันมีชีวิตจิตใจ ไปทำของเล่นมันอย่างนั้นได้อย่างไร

ตอนที่คุณเอี่ยมกล้อนขนเจ้าแด่น ป้าฉวีก็มาบ่นกับสันติภพว่า

เจ้าแด่นมันมีชีวิตจิตใจนะ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างสิ รู้สึกรู้สาเสียบ้าง โลกนี้มีหุ่นยนต์มากพอแล้ว

คุณเอี่ยมพูดถึงตัวเองตอนติดบุหรี่ตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ ได้น่าสนใจว่า

เมื่อเราเคร่งเครียดกับชีวิต เราก็หวังจะพึ่งพาสิ่งนั้นสิ่งนี้เพื่อให้ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเรากำลังทำร้ายตัวเอง ความจริงแล้วเราไม่เข้มแข็งพอที่จะต่อสู้แม่เพียงปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่างหาก

อย่าเห็นว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มเล็ก ๆ ที่ไม่น่าสนใจ ข้างในมันมีความประทับใจซ่อนอยู่ ตอนนี้หาอ่านยากแล้วครับ ไม่แน่ใจว่าในงานหนังสือบูธมติชนยังมีเลหลังขายอยู่ไหม