ต้นส้มแสนรัก - เด็กชายตัวน้อยผู้มีจินตนาการเป็นเกราะป้องกันความทุกข์ น่าประทับใจ หดหู่ เจ็บปวด สวยงาม

ต้นส้มแสนรัก - เด็กชายตัวน้อยผู้มีจินตนาการเป็นเกราะป้องกันความทุกข์ น่าประทับใจ หดหู่ เจ็บปวด สวยงาม

เซเซ่ เด็กชายตัวเล็กอายุ 5 ขวบ แต่เขามักจะโกหกคนอื่นว่าอายุ 6 ขวบแล้ว เขาเป็นเด็กฉลาด อ่อนไหว สามารถอ่านหนังสือออกโดยที่ยังไม่เคยไปโรงเรียน แต่ถึงอย่างนั้นเซเซ่ก็เป็นเด็กที่ดื้อและซนมาก

เซเซ่อยู่ในครอบครัวที่จน พ่อตกงาน มีแม่ที่ทำงานคนเดียวเพื่อหาเลี้ยงทั้งบ้าน เขามีพี่น้องเยอะมาก เวลาเขาซนก็จะถูกพ่อแม่และพี่ ๆ ตี ถ้าตีเพราะด้วยเหตุผลเขายอมรับได้ แต่ถ้าโดนตีโดยไม่ได้ทำอะไร เขาก็ยอมรับไม่ได้

ความซนของเซเซ่เป็นที่รู้กันทั้งเมือง ผู้ใหญ่มักบอกว่าเขามีวิญญาณผีร้ายสิงอยู่ในร่าง คอยบงการให้ทำสิ่งชั่วร้าย เซเซ่ก็เชื่อและเจียมเนื้อเจียมตนว่าตัวเองเป็นคนเลว เป็นคนไม่มีค่า

ครอบครัวของเซเซ่ย้ายบ้านใหม่ ที่สวนหลังบ้านมีต้นส้มเขาจึงนับมันเป็นเพื่อนสนิท ตั้งชื่อให้มันว่า มิงกินโย เวลามีเรื่องอะไรเขาก็จะมาเล่าให้ต้นส้มฟัง และต้นส้มในจินตนาการของเขาก็พูดได้ด้วยสิ

ตลอดทั้งชีวิตของเซเซ่ไม่เคยมีความสุขเลย ความจนทำให้ทุกคนเครียด และเซเซ่ที่ดื้อรั้นก็กลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนเหล่านั้น แต่มีคนหนึ่งที่เห็นว่าเซเซ่เป็นเด็กดีและฉลาด เขาเรียกคนนั้นว่า โปรตุก้า

โปรตุก้าเป็นเศรษฐี ความสัมพันธ์ของเขากับเซเซ่เริ่มต้นไม่สวยงาม แต่กลายเป็นมิตรภาพต่างวัยอันงดงามได้ โปรตุก้ามองเซเซ่ว่าเป็นเด็กที่บริสุทธิ์ ถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม และหวังจะช่วยให้ชีวิตของเซเซ่ดีขึ้น

เล่มนี้ผมเคยอ่านครั้งแรกตอนมัธยม ตอนนั้นไม่ประทับใจอะไรนะ จำความรู้สึกตอนอ่านตอนนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ อ่านเหมือนไม่ได้อ่าน แต่พอกลับมาอ่านอีกครั้งคือชอบมาก ชอบตั้งแต่ต้นเรื่องเลย รักเซเซ่มาก รักโปรตุก้ามาก ทุกอย่างที่เซเซ่ทำผมประทับใจหมด

เซเซ่เป็นตัวแทนของเด็กฉลาด บางทีเขาก็แสดงความฉลาดออกมาในทางที่ผู้ใหญ่เรียกว่าซน เด็กคนนี้เหมือนผ้าขาว แต่ปัญหารอบตัวเขามากมายเหลือเกิน หลายคนก็เอาปัญหามาลงที่เขา เซเซ่เลยเป็นผ้าขาวที่ถูกเอาไปเช็ดสิ่งสกปรก เลยกลายเป็นผ้าที่มอมแมม เหมือนจิตใจของเซเซ่ที่หม่นหมอง ไม่มีแรงจูงในให้มีชีวิตอยู่ต่อไป

ต้นส้มของเซเซ่เปรียบเสมือนที่หลบภัย เมื่อเขาเจอปัญหาแล้วมาหาต้นส้ม เหมือนได้ปลดปล่อยและบำบัดความทุกข์ลงไป ในชีวิตของเซเซ่มีต้นส้มอยู่ 2 ต้น เมื่อต้นหนึ่งตายไป และอีกต้นกำลังจะถูกตัด เซเซ่ก็ไม่มีแรงจูงในให้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว

เรื่องนี้เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่เรียบง่าย ไม่หวือหวา เต็มไปด้วยความเศร้า ความทุกข์ มีความหวังริบหรี่มาทำให้คนอ่านเอาใจช่วย ก่อนจะพาไปสู่ความหดหู่และเจ็บปวดใจ สะท้อนความจริงของชีวิตได้อย่างสวยงาม น่าประทับใจ เซเซ่เป็นใครก็ไม่รู้ แต่เมื่อได้อ่านหนังสือเล็ก ๆ เล่มนี้ ผมก็รักและเอ็นดูเขา

เพราะนายเป็นคนที่ดีที่สุดในโลกน่ะสิ ไม่มีใครรังแกผมเลยเวลานายอยู่ใกล้ ๆ แล้วผมก็รู้สึกว่าความสุขมันอยู่ในหัวใจของผม
ผมจะฆ่า ผมเริ่มไปแล้วด้วยซ้ำ ฆ่านี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเอาปืนของบัค โจนส์มายิงโป้งนะ ไม่ใช่อย่างนั้น ผมฆ่าอยู่ในใจ เพียงแต่ผมเลิกรักเขาแล้ว วันหนึ่งเขาก็จะตาย