ยูซึกิ ลาออกจากการเป็นครูที่ทำมานานถึง 15 ปี เพราะตอนนี้เธอเผชิญปัญหาบางอย่าง ทำให้หมดพลังในการเป็นครู กินอาหารไม่อร่อย และลูกศิษย์หนีออกห่าง ด้วยความที่เธอก็อายุ 34 ปีแล้ว จึงคิดถึงเรื่องแต่งงาน เลยไปบริษัทจัดหาคู่เพื่อหาคนมาออกเดตด้วย แต่ว่าออกเดตไปกี่คนยูซึกิก็ไม่เจอคนที่ถูกใจ
วันหนึ่งเธอเดินเหม่อจนมาเจอร้านขายเครื่องเขียนที่อบขนมปังขายด้วย ที่นี่เธอพบกับ โยอิจิ เจ้าของร้านและนักอบขนมปังที่อายุ 39 ปีแล้ว ยูสึกิสังเกตว่าโยอิจิดูมีความสุขกับสิ่งที่ทำ และการได้กินอาหารโดยมีโยอิจิอยู่ด้วยทำให้เธอมีความสุข เธอชอบความรู้สึกนี้จนเผลอหลุดปากชวนชายหนุ่มแต่งงาน ด้านฝ่ายชายก็ตอบตกลงเสียด้วย
เป็นอันว่ายูซึกิและโยอิจิตกลงคบกัน ยูซึกิที่ตอนนี้กำลังว่างงานจึงมาช่วยงานที่ร้านและฝึกอบขนมปังไปด้วย ขนมปังที่ร้านของพวกเขาช่วยเยียวยาลูกค้าที่มีปัญหาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ความสัมพันธ์ของยูซึกิและโยอิจิค่อย ๆ พัฒนา ระหว่างที่สะสางปัญหาความสัมพันธ์ให้คนอื่น
ซื้อการ์ตูนเล่มนี้เพราะหน้าปกและชื่อเรื่องที่ญี่ปุ๊นญี่ปุ่น อะไรที่มันเฉพาะเจาะจง เป็นสิ่งละอันพันละน้อยแบบนี้โคตรจะญี่ปุ่น ตอนอ่านเปรยปกหลังก็คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ต่างจากการ์ตูนผู้หญิงทั่วไป ที่ตัวละครผู้หญิงมาพบรักกับชายหนุ่มแล้วมีโมเมนท์โรแมนติก ๆ
แต่พออ่านแล้วพบว่ามันดีกว่าที่คิด ความสดใสชวนฝันแบบการ์ตูนผู้หญิงในเล่มนี้เบาบางมาก ๆ เป็นเพราะตัวละครพระนางในเรื่องอายุปาไป 30 กว่าแล้ว จะมางุ้งงิ้งฟรุ้งฟริ้งคงไม่เหมาะสมกับวัย การ์ตูนเรื่องนี้จึงเหมาะกับวัยผู้หญิงเสียมากกว่า ที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ จะทั้งความสัมพันธ์แบบคนรัก ความสัมพันธ์แบบระหองระแหงของสามีภรรยา ความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ลูก ความสัมพันธ์แบบครูและลูกศิษย์
และประโยคในเล่มที่ผมสะดุดใจและชอบนั่นคือ
เลือกคนที่เราสามารถพูดคุยความรู้สึกที่แท้จริงได้
การจะยอมรับใครสักคนเข้ามาอยู่เคียงข้างในชีวิต เราควรเลือกคนที่เราสามารถพูดความรู้สึกในใจออกมาให้เข้าฟังได้ ไม่ว่าความรู้สึกนั้นจะเป็นแง่ดีหรือแง่ลบที่อาจทำร้ายกันได้ แต่ถ้ามันเป็นความรู้สึกที่อัดอยู่เต็มอกเราก็ควรพูดออกมา เพื่อให้รู้ว่าตอนนี้เรากำลังมีปัญหากับเรื่องนี้ เพื่อปรึกษากันอย่างตรงไปตรงมาว่าจะแก้ปัญหากับเรื่องนี้กันยังไง
อ่านการ์ตูนเรื่องนี้เหมือนได้อ่านวรรณกรรมญี่ปุ่นหนึ่งเล่มเลยทีเดียว ใครอยากรู้ว่าขนมปังจะสามารถสร้างและก้ไขปัญหาด้านความสัมพันธ์ได้ยังไงต้องลองหามาอ่าน ตอนนี้แปลไทยออกมาแล้ว 3 เล่ม โดยสำนักพิมพ์บงกช ส่วนทางญี่ปุนล่าสุดเห็นมีถึงเล่ม 9 แต่ไม่รู้ว่าจบหรือยัง
