They Both Die at the End - ถ้ามีชีวิตเหลืออยู่อีก 24 ชั่วโมง คุณจะใช้ยังไงให้คุ้มค่า

ชื่อหนังสือมาแบบนี้ They Both Die at the End แน่นอนว่าตอนจบตัวเอกสองคนต้องตายแน่ ๆ หนังสือเล่มนี้อยู่ในหมวด Young Adult ว่าด้วยชีวิตวัยรุ่นที่กำลังจะเผชิญหน้ากับความตายในอีก 24 ชั่วโมง โลกในหนังสือมีบริษัทที่ชื่อว่า Death-Cast ซึ่งสามารถรู้ได้ว่าใครกำลังจะตาย และจะโทรมาบอกคนนั้นก่อนหน้าที่จะตายภายใน 24 ชั่วโมง ในหนังสือมีบริการสำหรับคนใกล้ตายมากมาย (เรียกคนพวกนี้ว่า Deckers) ทั้งร้านขายประสบการ์ณสุด extreme, อารีน่าที่ย่อส่วนทุกมุมของโลกมาให้ deckers ได้เที่ยวรอบโลกภายใน 80 นาที

Mateo Torrez เป็นหนุ่มอายุ 18 ที่ Death-Cast โทรมาหาเขา เขาได้พบกับ Rufus Emeterio หนุ่มวัยเดียวกันผ่านแอพ Last Friend ซึ่งเป็นแอพที่รวบรวม deckers ให้หาเพื่อนคนสุดท้ายที่จะตายไปพร้อมกัน ทั้งสองหนุ่มนัดเจอกันและออกไปใช้ 24 ชั่วโมงสุดท้ายของชีวิตด้วยกันให้คุ้มค่าที่สุด

หนังสือพูดถึงความตาย ตัวละครทุกตัวล้วนเสียคนสำคัญให้กับความตาย แต่อารมณ์ของหนังสือไม่ได้จมดิ่ง ฉุดอารมณ์คนอ่านให้เศร้า เป็นการตั้งคำถามมากกว่าว่าชีวิตนี้เราได้ทำสิ่งที่เราอยากทำหรือยัง ดูแลคนที่เรารักดีแล้วใช่ไหม สองหนุ่มในเรื่องพยายามใช้ทุกวินาทีที่เหลืออยู่ให้มีความสุขที่สุด ชวนกันมองโลกในแง่ดี แบ่งปันเงินส่วนตัวให้คนไร้บ้าน ให้คนที่มีความต้องการ แบ่งปันสิ่งของให้คนอื่นที่อยากได้ เพราะของพวกนี้เราล้วนไม่ได้ใช้ประโยชน์เมื่อเราตายไปแล้ว

อ่านแล้วฉุกคิดเหมือนกันนะว่าถ้าเกิดเราต้องตายขึ้นมาภายใน 24 ชั่วโมงจะรับมือยังไง ผมตอนนี้คือรับมือไม่ได้แน่ ๆ มีหลายอย่างที่ต้องเสียดายแน่ ๆ ถ้าไม่ได้ทำก่อนตาย และประเด็นเพื่อนคนสุดท้ายในชีวิตก็น่าสนใจ คงเหงาแย่ถ้ามีใครคนหนึ่งต้องตายอย่างโดดเดี่ยว สำหรับผมคงโล่งใจไปเปราะหนึ่งที่น่าจะมีเพื่อนคนสุดท้ายคนนั้นแล้ว

ข้างล่างนี้ของสรุปเรื่องสั้น ๆ เอาไว้ให้ตัวเองกลับมาอ่าน

Mateo แม่ตายตอนคลอดเขา ตอนนี้พ่อของเขาเข้า ICU ไม่รู้สึกตัว ส่วน Rufus เหลือตัวคนเดียว อาศัยอยู่กับเพื่อน ๆ ที่บ้านเด็กกำพร้า ครอบครัวของเขาประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตกแม่น้ำฮัดสัน พ่อ, แม่, พี่ ตายไปในเหตุการณ์ครั้งนี้

ในคืนที่ Death-Cast โทรมา Rufus เขากำลังอัด Peck แฟนหนุ่มคนใหม่ของแฟนสาวคนเก่าของเขาอยู่ พอรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย Rufus ก็หมดอารมณ์ที่จะอัดคน เลยกลับมาบ้านเด็กกำพร้าและเพื่อน ๆ กำลังจะจัดงานศพอำลาให้เขา แต่ Peck ดันโทรเรียกตำรวจให้มาจับ Rufus เขาจึงหนีออกจากบ้านมาแล้วเข้าแอพ Last Friend เพื่อหาเพื่อนคนสุดท้าย

เมื่อสองหนุ่มมาเจอกัน Mateo ก็ขอให้ Rufus พาไปเยี่ยมพ่อครั้งสุดท้าย Mateo หวังให้มีปาฏิหาริย์ให้พ่อฟื้นขึ้นมาเจอเขาก่อนที่ต้องจากกันไปชั่วนิรันดร์ แต่ก็ได้แค่หวัง จากนั้นจึงไปเยี่ยมหลุมศพแม่ พบว่าข้างหลุมศพแม่มีคนกำลังขุดหลุมใหม่ ที่ป้ายชื่อหลุมคือชื่อของเขาเอง

จากนั้น Mateo ขอไปพบกับเพื่อนสาวคนสนิทชื่อ Lidia ซึ่งเธอมีลูกอ่อนหนึ่งคน ส่วนสามีตายไปแล้ว Mateo รับเป็นพ่อบุญธรรมของหนูน้อย Mateo ไม่ได้บอก Lidia ว่าเขากำลังจากตาย จังหวะที่ Lidia เอาขยะออกไปทิ้ง Mateo ก็วางเงินที่กดมาจากบัญชีไว้บนโต๊ะให้ Lidia แล้ววิ่งหนีออกมาพร้อมกับบล็อกเบอร์โทรของเธอ

จากนั้นสองหนุ่มก็เดินเล่นไปเรื่อง พูดถึงความฝัน เล่าอดีตให้กันและกันฟัง Rufus ได้เจอกับเพื่อน ๆ ในบ้านเด็กกำพร้าผ่าน FaceTime เมื่อ Mateo เห็นมิตรภาพของพวกเขาจึงยืมมือถือ Rufus โทรหา Lidia แล้วทั้งสามคนก็ไปยัง World Travel Arena ไปทัวร์รอบโลกใน 80 นาที

แล้วทั้งสามก็มา Clint’s Graveyard เป็นบาร์สำหรับ deckers โดย Rufus อัพโหลดรูปบาร์แห่งนี้ลง IG ตัวเอง แล้ว Peck กับพวกก็หยิบปืนมุ่งหน้ามาที่นี่เพื่อล้างแค้นที่โดน Rufus อัดซะน่วม แม้วันนี้ Rufus จะจ้องตายอยู่แล้ว แต่ Peck จะเป็นคนส่ง Rufus ไปสู่ความตาย

ที่ Clint’s Graveyard มีการร้องคาราโอเกะ Mateo และ Rufus ขึ้นเวทีไปร้องเพลงด้วยกัน พอลงมาจากเวที Mateo ก็จูบ Rufus ทั้งสองคนชอบพอกันมาประมาณหนึ่งแล้ว แต่เพิ่งมาแสดงออก เพื่อน ๆ ของ Rufus มาที่ Clint’s Graveyard แล้ว Peck กับพวกก็ตามมาที่นี่ Peck จะยิง Rufus แต่ Mateo ช่วยไว้ทัน ทั้งสองวิ่งหนีออกมา กลับมาที่อพาร์เมนต์ของ Mateo

ทั้งสองตกลงกันว่าตั้งแต่นี้จะอยู่แต่ในห้องนอนของ Mateo แล้ว Mateo ก็เล่นเปียโนและร้องเพลง Rufus อัดคลิปไว้ พวกเขาพักงีบเพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืน Mateo ตื่นขึ้นมาก่อนแล้วเข้าห้องครัวไปชงชา แต่แล้วเตาแก๊สระเบิด Mateo โดนไฟเผาตายคาที่ พอทำใจได้แล้ว Rufus ก็มาเยี่ยมพ่อของ Mateo แล้ว Rufus ก็ใส่หูฟังเปิดคลิปที่ Mateo เล่นเปียโนแล้วเดินข้ามถนนไปแบบไม่มองทาง

จบ