Thinner สาปสยองซิปซี - คำสาปที่เปลี่ยนคนอ้วนให้เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก

Thinner สาปสยองซิปซี - คำสาปที่เปลี่ยนคนอ้วยให้เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก

Thinner สาปสยองซิปซี เป็นผลงานเขียนของ สตีเฟ่น คิง แต่ในนิยายเรื่องนี้เขาใช้นามปากกาว่า ริชาร์ด บาคแมน เพื่อพิสูจน์ว่างานเขียนของเขาขายได้ด้วยคุณภาพจริง ๆ ไม่ใช่คนแห่ซื้อเพราะเห็นชื่อ สตีเฟ่น คิง แปะหราอยู่บนหน้าปก

Thinner สาปสยองซิปซี เป็นเรื่องของ บิลลี่ ฮัลเลก ทนายความรูปร่างอ้วนจัด น้ำหนักเกินมาตรฐานไปมากโข วันหนึ่งขณะกำลังขับรถยนต์กลับบ้านพร้อมภรรยา เขาก็ไปชนเข้ากับหญิงชรายิปซีคนหนึ่ง แทนที่จะต้องได้ชดใช้ความผิดไม่ทางใดทางหนึ่ง แต่บิลลี่กลับรอดคดี เพราะผู้พิพากษาเป็นเพื่อนของเขา ญาติ ๆ ของหญิงชรายิปซีไม่พอใจกับความอยุติธรรมนี้ จึงสาปบิลลี่ให้ผอมลง

หลังจากนั้นน้ำหนักตัวของบิลลี่ก็เริ่มลดลง ทั้งที่ไม่ได้ออกกำลังกายและกินอาหารมื้อใหญ่แบบเดิม จากทีแรกที่คิดว่าคำสาปเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ตอนนี้เขาเริ่มเชื่อขึ้นมาแล้ว บิลลี่จะจัดการถอดคำสาปนี้ได้อย่างไร?

ข้างล่างนี้ขอสรุปเรื่องทิ้งไว้หน่อย เอาไว้ให้ตัวเองกลับมาอ่าน ใครอยากรู้ก็กดอ่านได้จ้า

วันที่เกิดเหตุ บิลลี่ขับรถยนต์กลับบ้านกับภรรยาชื่อว่า ไฮดี้ ถ้าขับรถกันมาปกติคงไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้น แต่วันนั้นไฮดี้นึกพิเรนท์อะไรไม่รู้ถึงชักว่าวให้บิลลี่ไปด้วยระหว่างทาง ขณะที่บิลลี่กำลังฟิน จู่ ๆ ก็มีหญิงชรายิปซีโผล่ข้ามถนนออกมาระหว่างรถ 2 คันที่จอดไว้ข้างทาง บิลลี่ไม่ทันระวังชนหญิงชราเข้าอย่างจังจนเสียชีวิต

หญิงชรายิปซีชื่อว่า ซูซานน่า เลมเก้ อายุประมาณ 70-75 ปี เป็นสมาชิกของกลุ่มยิปซีเร่ร่อนที่เพิ่งมาตั้งแคมป์อยู่ในเมืองแฟร์วิลนี้ ดังแคน ฮ็อปลีย์ ตำรวจประจำเมือง เมื่อเห็นว่าผู้ก่อเหตุคือบิลลี่เพื่อนของเขา และผู้เคราะห์ร้ายเป็นยิปซี เขาก็ปล่อยปละละเลยในการสอบสวน หนำซ้ำยังไล่พวกยิปซีให้ออกไปพ้นเมืองนี้

บิลลี่ต้องขึ้นศาลตามกระบวนการยุติธรรม โชคดีเหลือเกินที่ผู้พิพากษาคดีนี้คือ แครี่ รอซซิงตัน เพื่อนของเขา ซึ่งตัดสินคดีนี้ให้บิลลี่ไม่มีความผิด ไม่โดนทำโทษ ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายใด ๆ เรื่องเป็นอย่างนี้ก็สร้างความไม่พอใจให้พวกยิปซี ทาดูซ เลมเก้ ชายชราที่บิลลี่คิดว่าคือสามีของซูซานน่า เลมเก้ ได้เดินเข้ามาหาบิลลี่ตอนออกมาจากศาล เขาลูบที่ใบหน้าของบิลลี่และพูดว่า ผอมลง แค่นั้นแล้วจากไป

หลังจากนั้นน้ำหนักตัวของบิลลี่ก็ลดลงอย่างฮวบฮาบ ใจหนึ่งก็คิดว่าคือคำสาปของยิปซี ใจหนึ่งไม่เชื่อและคิดว่าตัวเองเป็นมะเร็งอะไรสักอย่าง เขาไปตรวจดูหมอบอกว่าสุขภาพเขาปกติดี แต่น้ำหนักของเขาก็ลดลงทุกวัน จนวันหนึ่งกางเกงเขาหลุดขณะกำลังอยู่ในห้องพิพากษา

บิลลี่ใจคอไม่ดีจึงไปเยี่ยม แครี่ รอซซิงตัน ผู้พิพากษาคดีของเขา แต่ไม่เจอเขาอยู่บ้าน พบเพียง ลีด้า รอซซิงตัน ภรรยาของเขา ลีด้าบอกว่าตอนนี้แครี่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะเจ้าตัวคิดว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง แต่ลีด้าเชื่ออย่างสุดใจว่าสามีของเธอถูก ทาดูซ เลมเก้ สาป ผิวหนังของแครี่เปลี่ยนสภาพกลายเป็นเกล็ด เขากำลังกลายเป็นจระเข้!

บิลลี่ไปหา ดังแคน ฮ็อปลีย์ ตำรวจประจำเมืองต่อ พบเขาอยู่บ้านคนเดียวในห้องมืด ๆ ดังแคนมีสิวเน่า ๆ ปกคลุมทั่วร่างกาย น้ำหนองไหลเยิ้มออกมาอย่างน่าสยดสยอง ดังแคนบอกว่าเขาโดนตาเฒ่าทาดูซสาปมาเหมือนกัน

คราวนี้บิลลี่เชื่ออย่างสุดใจแล้วว่าที่ตัวเองผอมลงเพราะโดนสาป แต่ไฮดี้เมียเขาไม่เชื่อ จะส่งบิลลี่ไปให้หมอดูแล แถมยังคิดว่าบิลลี่เป็นบ้า เธอจึงขออำนาจศาลส่งตัวบิลลี่เข้ารับการรักษาด้านจิตเวชโดยเจ้าตัวไม่เต็มใจ บิลลี่จ้างนักสืบเอกชนตามหายิปซีกลุ่มนั้น พอได้เบาะแสเขาก็หนีทุกคนมาแล้วตามรอยยิปซีต่อเอง

นักสืบเอกชนบอกว่า ซูซานน่า เลมเก้ ไม่ได้เป็นภรรยาของ ทาดูซ เลมเก้ อย่างที่บิลลี่คิดไว้ตอนแรก แต่ซูซานน่าคือลูกสาวของทาดูซต่างหาก ตาเฒ่าผู้นี้อายุ 107 ปีแล้ว บิลลี่ตามรอยมาจนพบกลุ่มยิปซี เขาเข้าไปขอให้ ทาดูซ เลมเก้ ถอนคำสาปให้ แต่ตาเฒ่าบอกว่าถอนไม่ได้ ซ้ำบิลลี่ยังโดน จิน่า เลมเก้ เหลนของทาดูซยิงมือทะลุไปข้างหนึ่ง

บิลลี่ไม่เหลือใครแล้ว ทุกคนคิดว่าเขาบ้า เขาเหลือที่พึ่งสุดท้ายคือ ริชาร์ด จิเนลลี่ มาเฟียอิตาลีที่เขาเคยสนิทด้วย บิลลี่ขอความช่วยเหลือไปดูแล้วริชาร์ดก็มาช่วยจริง ๆ เขาเล่นไม่แข็งกับพวกยิปซีโดยการเอาปืนไปกราดยิงแคมป์ของพวกนั้น บุกไปหาจิน่าแล้วให้เธอไปบอกตาทวดทาดูซว่าให้ถอนคำสาปให้บิลลี่ ไม่อยากนั้นเขาจะฆ่าเด็ก ๆ ในแคมป์ให้หมด

ทาดูซยอมถอนคำสาปให้ โดยนัดบิลลี่ให้ไปเจอกันที่สวนสาธารณะ ริชาร์ดไปส่งบิลลี่ บิลลี่ไปถึงก็ได้พบกับทาดูซ ตาเฒ่าถือพายมาแล้วทำการถอดคำสาปให้บิลลี่โดยการกรีดเลือดที่ฝ่ามือของตัวเองและบิลลี่ลงไปในพาย แล้วบอกว่านี่ไม่ใช่การทำลายคำสาป แต่คือการย้ายคำสาปลงมาในพายชั่วคราว บิลลี่ต้องหาคนมารับคำสาปแทนโดยการเอาพายนี้ไปให้กิน ไม่อย่างนั้นคำสาปจะย้อนกลับมาเข้าตัวบิลลี่แรงเป็น 2 เท่า

บิลลี่ถือพายกลับมาหาริชาร์ดที่รถ พบริชาร์ดตายแล้วซึ่งน่าจะเป็นฝีมือของจิน่า เขาจึงกลับบ้านหวังจะเอาพายให้ไฮดี้เมียของเขากิน เพราะเรื่องราวทั้งหมดบิลลี่โทษไฮดี้ ถ้าวันนั้นเธอไม่ชักว่าวให้เขา หญิงชรายิปซีก็คงไม่ตาย เขาก็คงไม่โดนสาป พอมาถึงบ้านก็พบไฮดี้ ส่วนลินด้าลูกสาวเขาไปอยู่ที่บ้านคนอื่นชั่วคราวเพราะทะเลาะกับแม่ เป็นโอกาสดีบิลลี่จึงทำทีว่าซื้อพายมาฝากไฮดี้ เธอดีใจมากบอกว่าเดี๋ยวจะกินคืนนี้ เมื่อกินข้าวเสร็จบิลลี่ก็ไปอาบน้ำแล้วเข้านอนเพราะเหนื่อยมามาก

ตื่นเช้ามาบิลลี่ลงมาที่ครัว เห็นที่อ่างล่างจากมีจานใส่พายกินแล้ว 2 จาน เมื่อคืนลูกสาวเขากลับมาบ้าน กลับมาปรับความเข้าใจกับแม่ และสองคนนั้นก็นั่งคุยกัน พลางกินพายต้องคำสาปไปด้วย บิลลี่ช็อกเขาอยากส่งต่อคำสาปให้ไฮดี้เพียงคนเดียว ไม่ใช่กับลินด้าลูกสาวสุดที่รักของเขา

จบ

เรื่องนี้อาจจะเรื้อน ๆ หน่อย ถ้าเป็นหนังก็เป็นหนังคัลท์ สำหรับเราชอบครึ่งไม่ชอบครึ่ง บางอย่างมันเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผลมารองรับ บางช่วงบางตอนของเรื่องก็สนุกมาก บทจะเนือยก็เนือยจนน่าเบื่อ แต่ฝีมือการเขียนของ สตีเฟ่ง คิง ดีมาก บรรยายและเปรียบเทียบเห็นภาพง่าย เลยอ่านได้จนจบ ไม่หยุดไว้กลางคัน

🥧 ถ้าเป็นแฟน สตีเฟ่น คิง ตัวจริงก็คุ้มค่านะที่จะหามาอ่าน


เชิงอรรถ
ผู้เขียน - ริชาร์ด บาคแมน (สตีเฟ่น คิง)
ผู้แปล - วราพรรธน์ บุญมาธัญรัตน์
สำนักพิมพ์ - แพรวสำนักพิมพ์
พิมพ์ครั้งแรก - กุมภาพันธ์ 2562
ความยาว - ปกอ่อน 274 หน้า
คะแนน Goodreads - 3.71