หนังดราม่าหวังชิงรางวัลเรื่องนี้สร้างขึ้นโดย Netflix ฝีมือการกำกับของ โนอาห์ บอมบาค ที่ถนัดทำหนังพูด เช่น The Squid and The Whale หรือ Margot at The Wedding สำหรับ Marriage Story ก็มาทรงเดียวกับที่ผู้กำกับถนัด หนังเล่าถึงชีวิตรักที่กำลังแตกหักของ ชาร์ลี ผู้กำกับละครเวทีสุดติสท์ และ นิโคล นักแสดงสาวดาวรุ่ง ทั้งสองมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนชื่อ เฮนรี่ อายุ 8 ขวบ ซึ่งต่างฝ่ายต่างอยากได้สิทธิในการเลี้ยงดูลูก ชีวิตคู่ที่ทีแรกว่าจะจบลงกันด้วยดี กลับต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
หนังไม่ได้โจมตีว่าฝ่ายไหนถูก ฝ่ายไหนผิด ชาร์ลีถ้าว่ากันตามตรงก็เป็นคนเห็นแก่ตัวในด้านการวิ่งตามความฝันของตัวเอง และนิโคลก็ใช้ทุกวิถีทางให้ชาร์ลีเสียเปรียบเธอทางกฎหมาย แรงขับเคลื่อนในชีวิตของชาร์ลีคือละครเวที เขาใฝ่ฝันอยากจะนำละครเวทีที่ตัวเองกำกับไปแสดงที่บรอดเวย์ ได้เงินจากการทำงานมาก็เอาไปลงกับละครเวทีหมด ขอให้นิโคลและเฮนรี่อยู่ด้วยกันที่นิวยอร์กเพื่อจะได้ง่ายต่อการทำงานของเขา และขอให้นิโคลปฏิเสธงานแสดงหนัง ละครที่ติดต่อเข้ามา เพื่อมาแสดงละครเวทีของเขาแทน
ด้านของนิโคลเธอรู้สึกเหมือนใช้ชีวิตอยู่ใต้เงาของชาร์ลี มีชีวิตอยู่ต่อเพื่อทำความฝันของชาร์ลีให้สำเร็จ ไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตที่เป็นของตัวเอง เธออยากรับงานแสดงหนังและละครที่ติดต่อเข้ามา แต่ต้องปฏิเสธเพราะชาร์ลีขอไว้ นิโคลมาคิดอย่างถี่ถ้วน เธอรู้สึกว่าชาร์ลีไม่ได้ให้ความสำคัญกับเธอเท่าที่ควร จึงอยากจบชีวิตคู่ลง
แรก ๆ ทั้งสองอยากจะไกล่เกลี่ยให้จบลงได้ด้วยดี แต่นิโคลตัดสินใจฟ้องหย่า โดยมีทนายสาว นอร่า ว่าความให้ นอร่าทำทุกทางเพื่อเอาเปรียบให้ชาร์ลียุ่งยากในการต่อสู้ทางกฏหมาย หนังค่อย ๆ ให้เราเห็นคู่รักที่เคยมีความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กัน แล้วต่อมาค่อย ๆ ใช้อคติและความอยากเอาชนะมาห้ำหั่นกัน จนบั่นทอนความสัมพันธ์ที่มีด้วยกันลงไป
👪 สำหรับเราดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า "พื้นที่ตรงกลาง" สำคัญมากสำหรับการจะใช้ชีวิตให้รอด ต้องแคร์อีกฝ่ายให้มากเท่าที่เราแคร์ความรู้สึกตนเอง
เชิงอรรถ
วันที่เข้าฉาย - 6 ธันวาคม 2562
คะแนน IMDb - 8.4
คะแนน Rotten Tomatoes - 96%
ผู้กำกับ - มาร์ติน สกอร์เซซี
นักแสดงนำ - อดัม ไดรเวอร์, สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน
ความยาว - 2 ชม. 16 นาที
ประเภท - ตลก, โรแมนซ์, ดราม่า