Goosebumps ซีรีส์ 2000 เล่ม 3 ครูปีศาจ - ครูผู้หิวโหยที่ต้องกินนักเรียน 1 คนทุกปี


Goosebumps ซีรีส์ 2000 เล่ม 2 ครูปีศาจ - ครูผู้หิวโหยที่ต้องกินนักเรียน 1 คนทุกปี

เล่มที่ 3 ของหนังสือชุด Goosebumps (กูสบั๊มส์) ชื่อเรื่องว่า "ครูปีศาจ" แปลมาจากชื่อภาษาอังกฤษคือ "Creature Teacher" เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งถูกพ่อแม่ส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ ซึ่งมีครูประจำชั้นเป็นปีศาจ นักเรียนทุกคนในห้องต้องแข่งกันไม่ให้ได้ที่โหล่ เพราะคนที่ได้ที่โหล่จะโดนคุณครูปีศาจกิน

การอ่านหนังสือชุดนี้เราไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายอยู่แล้ว มันก็หลอนแบบเด็ก ๆ สนุกแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่เล่มนี้สนุกน้อยกว่าสองเล่มที่ผ่านมามาก ด้านล่างนี้มีปุ่มสปอยให้กดอ่านกัน เผื่อใครอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด เพราะหนังสือชุดนี้ก็หาอ่านยากแล้ว

พอล เป็นเด็กผู้ชายเรียนอยู่ชั้น ป.6 เขาเป็นคนไม่ค่อยเอาไหนต่างจากพ่อแม่ที่ประสบความสำเร็จทั้งคู่ พอลเป็นคนตลกชอบกวนตีนคุณครู พ่อแม่เห็นว่าพฤติกรรมของเขาควรได้รับการแก้ไข จึงส่งไปอยู่โรงเรียนประจำกลางภูเขา ซึ่งเป็นปราสาทเก่าแก่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว

ที่นี่พอลได้เพื่อนใหม่ชื่อ มอลลี่, เซเลสท์ และเบรด ที่อยู่ ๆ ก็เข้ามาเตือนพอลว่าให้รีบหนีไปจากที่นี่เมื่อยังมีโอกาส และทำเหมือนที่โรงเรียนนี้มีสิ่งน่ากลัวอาศัยอยู่ พอลคิดว่าทุกคนแกล้งทำเป็นการรับน้องใหม่อย่างเขา จึงเออออสนุกไปด้วย

แล้วเขาก็ได้พบกับครูประจำชั้นชื่อ ครูมาร์ค เป็นผู้หญิงหน้าตาน่าเกลียด มีดวงตาปูดโปนเหมือนตาของวัว รูปร่างอ้วนฉุ และมีเท้าที่ใหญ่ยังกะหมอนทำให้ใส่รองเท้าไม่ได้ เพื่อน ๆ บอกพอลว่าครูมาร์คเป็นปีศาจ ครูเป็นคนดุมากและได้แนะนำให้พอลรู้จักกับลำดับห่วงโซ่อาหาร ที่เป็นรายชื่อนักเรียนทั้งห้องเรียงลำดับสูงต่ำตามคะแนนที่ทำได้ ท้ายเทอมใครอยู่ที่โหล่ของลำดับจะถูกครูมาร์คจับกิน พอลหัวเราะนึกว่าครูเองก็แกล้งตลกใส่เขาด้วย

ถึงมื้อกลางวัน พอลมากินข้าวกับมอลลี่และเซเลสท์ แต่โต๊ะในโรงอาหารไม่พอนั่ง เขาจึงนั่งแยกกับสาวทั้งสองคน พอลได้มานั่งกับเพื่อนใหม่ชื่อ มาร์พ ซึ่งดูเป็นคนเงียบ ๆ แปลก ๆ และไม่มีใครคบเลย มาร์พถามว่าวันแรกที่โรงเรียนเป็นไงบ้าง พอลตอบไปว่าครูมาร์คพึกลึกดี แถมหน้าตาน่าเกลียดอีกด้วย ขณะนั้นเองมอลลี่และเซเลสท์ก็โบกมือให้พอล พอลนึกว่าเรียกให้ไปนั่งด้วยเพราะมีที่นั่งว่าง แต่เขายังไม่ยอมย้าย นินทาครูมาร์คให้มาร์พฟังต่อ

เมื่อพอลกลับมาหามอลลี่และเซเลสท์ ทั้งสองสาวก็บอกว่ามาร์พเป็นลูกชายของครูมาร์ค พอลรู้ตัวว่าตัวเองซวยแล้ว ถ้ามาร์พเอาเรื่องที่เขานินทาไปบอกครูมาร์คเขาต้องแย่แน่ จึงคิดว่ารีบไปแก้ตัวกับครูมาร์คก่อนที่มาร์พจะทันบอกอะไรดีที่สุด เมื่อมาเจอครูมาร์คพอลก็ถึงกับอึ้ง เมื่อเห็นครูกำลังกินหนูสด ๆ อยู่ ถึงตอนนี้พอลเชื่อแล้วว่าครูมาร์คเป็นปีศาจจริง ๆ

เร็ว ๆ นี้กำลังจะมีกิจกรรมแสดงความสามารถพิเศษของนักเรียน ใครทำได้ไม่ดีจะต้องไปอยู่ท้ายสุดของห่วงโซ่อาหาร เซเลสท์จะร้องเพลง พอลจะเดี่ยวไมโครโฟนและบิดลูกโป่งเป็นรูปสัตว์ไปด้วย ส่วนมอลลี่และเบรดจะเล่นไวโอลิน แต่ครูมาร์คบอกว่าการแสดงของแต่ละครจะต้องไม่ซ้ำกัน มอลลี่และเบรดต้องแข่งกันว่าใครเล่นไวโอลินได้เก่งสุดจะได้ขึ้นแสดงในวันจริง ส่วนคนแพ้ต้องหาการแสดงอื่นมาแทน

วันซ้อมเซเลสท์ร้องเพลงได้ดี มอลลี่เล่นไวโอลินได้ประทับใจเพื่อน ๆ มาถึงตาเบรดที่จะเล่นไวโอลินเหมือนกัน เมื่อเบรดเปิดกล่องไวโอลินของเขาก็มีกลิ่นเหม็นหึงโหยออกมา ทุกคนหนีตายไปหาอากาศหายใจ มีคนแกล้งเอาน้ำมันกลิ่นสกังค์มาราดในกล่องไวโอลินของเบรด เบรดสงสัยว่าอาจจะเป็นมาร์พ เพราะมาร์พเคยมาของจับไวโอลินของเขาแล้วเขาไม่ให้ ซึ่งอาจทำให้มาร์พโกรธแล้วแกล้งอย่างนี้

มาถึงตาพอล เขาหยิบลูกโป่งขึ้นมาเป่าแต่ลูกโป่งไม่ยอมพอง เปลี่ยนลูกโป่งใหม่ก็เป็นแบบนี้ ลูกโป่งทุกใบของเขาถูกเจาะรูปหมด นั่นทำให้ครูมาร์คที่ไม่ชอบหน้าเขาอยู่แล้วเลื่อนชื่อของเขามาอยู่ท้าย ๆ ของห่วงโซ่อาหาร พอลคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของมาร์พอีกเหมือนกัน เพราะหลัง ๆ มานี้มาร์พพยายามมาตีสนิทกับพอล แต่พอลไม่อยากมีเพื่อนเป็นปีศาจเลยไสหัวเขาไป ซึ่งคงทำให้มาร์พโกรธแล้วแกล้งพอลอย่างนี้

ทุกคนทำสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ไปส่งครูมาร์คเพื่อเอาคะแนนพิเศษ มอลลี่และเซเลสท์แนะนำให้พอลเอาลูกบอลจิ๋วมาต่อกันเป็นแบบจำลองโมเลกุลไปส่ง พอลใช้เวลาหลายวันทำมัน เสร็จแล้วเขาเก็บมันไว้ในกล่องแล้วเอาไปส่งครูมาร์คในวันรุ่งขึ้น เมื่อเปิดกล่องออกมาแทนที่จะเป็นแบบจำลองโมเลกุล แต่กลายเป็นลูกบอลจิ๋วเรียงกันเป็นคำว่า "แกน่าเกลียด" นั่นทำให้ครูมาร์คโมโหมาก ลุกไปกระชากป้ายชื่อพอลออกมาจากลำดับห่วงโซอาหารแล้วโยนลงพื้น พูดว่า "แกอยู่ต่ำกว่าห่วงโซ่อาหารอีก ฉันจะกินแก"

พอลคิดจะหนีออกไปจากโรงเรียน มอลลี่ตามมาห้ามบอกว่าไม่มีทางหนีไปไหนได้หรอกเพราะโรงเรียนล้อมด้วยรั้วไฟฟ้า และพ่อแม่ของพอลก็มาหาที่นี่แล้ว พอลรีบกลับเข้าไปในโรงเรียนเห็นพ่อกับแม่อยู่กับครูมาร์ค พอลรีบฟ้องพ่อแม่ว่าครูมาร์คเป็นปีศาจ ครูมาร์คบอกว่าพอลมีปัญหาให้พากลับบ้านเถอะ พ่อแม่ของพอลหน้าเสียและอยากให้ลูกเรียนที่โรงเรียนนี้ต่อเพราะมีชื่อเสียง

ครูมาร์คบอกว่าถ้าอยู่ต่อพอลอาจหนีไปอีก และแถวนี้มีป่าพอลอาจหนีเข้าไปและหายสาบสูญเอาได้ พอลร้องอ๋อในใจ ที่เรียกพ่อแม่เขามาเพื่อจัดฉากให้พ่อแม่เชื่อว่าเขาหายไปเพราะนี้เข้าป่า แต่จริง ๆ แล้วครูมาร์คกินเขาไปแล้วต่างหาก พ่อแม่ของพอลกลับบ้านไป

มาถึงวันจริงของการแสดงความสามารถ ก่อนงานเริ่มพอลได้จดหมายจากครูมาร์คให้ไปพบ มาถึงก็พบห้องมืด ๆ ไม่มีใครอยู่ แล้วพอลก็โดนครูมาร์คฉุดไปห้องใต้ดิน ที่นี่มีเตาไฟลุกโชนอยู่ ครูมาร์คบอกว่าเธอไม่กินคนแบบดิบ ๆ หรอกนะ ขณะที่พอลกำลังเอาตัวรอดมอลลี่ก็ลงลิฟต์มาช่วยพอล และเธอสารภาพว่าเป็นเป็นคนแกล้งเอากลิ่นสกังค์ไปราดไวโอลินของเบรดเพื่อให้เธอได้แสดงคนเดียว และเป็นคนเจาะลูกโป่งกับพังสิ่งประดิษฐ์ของพอล เพื่อให้พอลโดนครูมาร์คกินแทนที่จะเป็นเธอ

มอลลี่กดลิฟต์ขึ้น พอลจะขึ้นไปด้วยแต่โดนครูมาร์คฉุดไว้ เขาหนีไปตามทางเดินอันมืดมิดและไปเจอกับมาร์พ พอลนึกในใจว่าซวยแล้ว สองคนแม่ลูกต้องร่วมมือกันแน่เลย แต่เป็นว่ามาร์พมาที่นี่เพื่อช่วยพอล เพราะเขาเห็นพอลเป็นเพื่อนตั้งแต่พอลมานั่งกินข้าวและพูดคุยด้วย พอลรู้สึกผิดที่มองมาร์พผิดไป

มาร์พบอกความลับว่าหากทำให้ครูมาร์คหัวเราะเธอจะเข้าสู่ภาวะจำศีลไปนาน 6 เดือนหรือนานเป็นปี ครูมาร์ควิ่งมาหาแล้ว พอลตัดสินใจก้มลงไปจั๊กจี้เท้าอันใหญ่และเหนอะหนะของครูมาร์ค ครูหัวเราะตัวงอแล้วล้มตึงจำศีลไป พอลขอบคุณมาร์พ มาร์พบอกว่าเรื่องทั้งหมดทำให้เขาตื่นเต้นมาก และตอนนี้เขาก็รู้สึกหิวมาก ๆ ด้วย แล้วมาร์พก็เดินเข้ามาจะกินพอล

🍛 ไม่ค่อยสนุกเนอะ แต่ยังไม่หมดหวัง รอสนุกกับเล่มหน้าละกัน


เชิงอรรถ
ผู้เขียน - อาร์. แอล. สไตน์
ผู้แปล - ทิชา และ เบน จิรพัฒน์
สำนักพิมพ์ - อักษราพิพัฒน์
พิมพ์ครั้งแรก - มีนาคม 2544
ความยาว - ปกอ่อน 143 หน้า
คะแนน Goodreads - 3.62