มนุษย์ตุ๊กตา - นิยายดราม่าที่หน้าปกทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นนิยายฆาตกรรม

มิซึโฮะ เป็นเด็กผู้หญิงอายุหกขวบที่หน้าตาน่ารักและจิตใจดี วันหนึ่งเธอไปพักผ่อนกับญาติ ๆ แล้วเกิดอุบัติเหตุจมน้ำจนสมองตายกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา คาซึมาสะ และ คาโอรุโกะ ผู้เป็นพ่อแม่ตัดสินใจทำทุกวิธีทางเพื่อให้เธอกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง แม้วิธีเหล่านั้นจะผิดธรรมชาติ ต้องพึงพาแต่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว จนหลายคนมองว่ากำลังเล่นกับศพที่ไร้วิญญาณ...

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเห็นตรงกัน ถ้าให้ตัดสินจากหน้าปกเพื่อน ๆ คิดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นแนวไหน? คงคิดว่าเป็นแนวฆาตกรรม-สืบสวนสอบสวนใช่ไหมล่ะ ยิ่งชื่อคนเขียนคือ ฮิงาชิโนะ เคโงะ ด้วยแล้วยิ่งทำให้มั่นใจว่าต้องเป็นแนวนี้แน่ ๆ

แต่เปล่าเลย... มันผิดคาดมาก ๆ เพราะนิยายเล่มนี้เป็นแนวดราม่า ไม่ใช่แนวฆาตกรรม-สืบสวนสอบสวนอย่างที่คิดไว้ตอนแรก เป็นดราม่าแบบดราม่าจ๋าเลย จะบอกว่าผิดหวังก็พูดอย่างนั้นได้นะ เพราะตั้งใจว่าจะได้อ่านนิยายฆาตกรรม แล้วชื่อเรื่องกับปกก็สื่อให้คิดไปทางนั้น แต่ถ้าทำใจเรื่องนั้นได้และยอมรับว่ากำลังอ่านนิยายดราม่า ก็ถือว่าเล่มนี้เป็นนิยายดราม่าที่ดี ลื่นไหล มีการตั้งคำถามถึงศีลธรรม ตั้งคำถามว่าควรนิยามความตายว่าอย่างไรดี

ขออนุญาตใส่สปอยไว้ให้ตัวเองได้กลับมาอ่าน หรือถ้าจะมีประโยชน์กับใครก็เชิญกดอ่านได้ตามอัธยาศรัยจ้า แต่อย่าลืมไปหาหนังสือมาอ่านกันด้วยนะ เพราะรายละเอียดมันเยอะมาก

คาซึมาสะ และ คาโอรุโกะ เป็นคู่สามีภรรยาที่กำลังจะหย่าร้างกัน เพราะฝ่ายชายนอกใจไปหลับนอนกับหญิงอื่น คาซึมาสะนั้นเป็นเจ้าของบริษัทวิจัยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ฐานะทางการเงินดีมาก ส่วนคาโอรุโกะนั้นไม่ได้ทำงาน เลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียว

ทั้งสองมีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงชื่อ มิซึโฮะ อายุหกขวบ อีกคนเป็นผู้ชายชื่อ อิคุโตะ อายุสี่ขวบ เด็ก ๆ ไปเที่ยวพักผ่อนกับญาติ ๆ มิซึโฮะลงไปว่ายน้ำที่สระแล้วเกิดุบัติเหตุนิ้วไปติดกับฝาท่อระบายน้ำ เธอขาดอากาศหายใจไปพักหนึ่ง ถึงไม่ตายแต่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา แพทย์สันนิษฐานว่าสมองอาจตาย ถ้าได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตายแล้วจริง ๆ จะถือว่าเสียชีวิต แม้หัวใจจะยังเต้นอยู่

คาซึมาสะ และ คาโอรุโกะ ใช้เวลาทำใจ หมอประจำตัวของมิซึโฮะแนะนำว่าถ้ายอมให้วินิจฉัยว่าสมองตาย จะสามารถนำอวัยวะของเด็กหญิงไปบริจาคต่อชีวิตของเด็กคนอื่น ๆ ได้ ทีแรกทั้งสองตัดสินใจจะให้ลูกสาวบริจาคอวัยวะ แต่เมื่อมาเยี่ยมลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายก็เกิดเปลี่ยนใจจะเก็บมิซึโฮะไว้

หมอคาดว่าสมองตายอย่างมิซึโฮะน่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน อย่างมากก็ไม่กี่เดือน ด้วยความที่คาซึมาสะเป็นเจ้าของบริษัทวิจัยเทคโนโลยีทางการแพทย์ เขาก็ใช้ทรัพยากรที่มียื้อชีวิตลูกสาวไว้ให้ได้นานที่สุด คาโอรุโกะหมกมุ่นอยู่แต่กับการดูแลลูกสาว ทีแรกพวกเขาผ่าตัดติดตั้งระบบช่วยหายใจใส่เข้าไปในตัวมิซึโฮะ เพื่อที่เธอจะสามารถหายใจเองได้ไม่ต้องเสียบท่อหายใจ ต่อมาก็ติดตั้งระบบกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าไว้ที่สันหลัง ซึ่งจะช่วยให้มิซึโฮะขยับแขนขาได้ด้วยการสั่งการจากคอมพิวเตอร์

คาโอรุโกะปฏิบัติกับลูกสาวเหมือนยังมีชีวิต ทั้งพูดคุย ซื้อของขวัญให้ และถึงขนาดจ้างครูมาสอนหนังสือทั้งที่ลูกสาวไม่รู้สึกตัว มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอพามิซึโฮะที่นอนเป็นผักไปงานปฐมนิเทศลูกชายที่โรงเรียน นั่นทำให้น้องชายที่น่ารักเริ่มห่างเหินและไม่สนใจพี่สาวเหมือนเดิม

อิคุโตะรักพี่สาวเหมือนเดิมเหมือนตอนก่อนเธอจะประสบอุบัติเหตุ เขาเชื่อว่าพี่สาวป่วยเป็นโรคนอนหลับ แต่พอโตขึ้น ได้ยินคนข้างนอกพูดถึงก็จึงรู้ว่าแท้จริงแล้วสถานะพี่สาวคืออะไร คนชอบพูดกับว่ามิซึโฮะตายแล้ว ที่นั่งอยู่บนรถเข็นคือศพที่รอวันหมดลมหายใจเท่านั้น

เรื่องมาถึงไคล์แม็กซ์ตอนที่คาโอรุโกะจัดฉลองวันเกิดให้อิคุโตะ เธอบอกให้ลูกสาวชวนเพื่อน ๆ มากันเยอะ ๆ แต่พอถึงเวลาอิคุโตะกลับไม่ลงมาร่วมงาน พอคาโอรุโกะคาดคั้นถึงรู้ว่าอิคุโตะไม่ได้ชวนเพื่อนมาสักคน เพราะอยู่ที่โรงเรียนเขาโดนเพื่อน ๆ ล้อเรื่องพี่สาว และอายที่เพื่อน ๆ จะมาที่บ้านแล้วเห็นสภาพพี่สาว คาโอรุโกะโกรธที่อิคุโตะคิดเช่นนั้นจึงตบหน้าลูกชาย ญาติ ๆ ที่มาร่วมงานบอกให้คาโอรุโกะใจเย็น

คาโอรุโกะโมโหมากเพราะแต่ละคนล้วนคิดว่ามิซึโฮะตายไปแล้ว เธอไปหยิบมีดจากในครัว โทรฯแจ้งตำรวจให้มาที่บ้าน แล้วจะเข้าไปเอามีดแทงมิซึโฮะ ทุกคนรั้งไว้แล้วคาโอรุโกะสวนกลับว่าจะกลัวทำไมเพราะมิซึโฮะตายแล้วไม่ใช่หรือ ที่ตัวเองกำลังจะแทงคือศพไม่มีชีวิต คนเราตายสองรอบไม่ได้ ถ้าแทงลูกสาวในตอนนี้เธอก็ต้องไม่มีความผิด หันไปถามตำรวจที่มาถึงก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ตอบไม่ได้ว่าถ้าตนฆ่ามิซึโฮะจะผิดกฎหมายไหม

การระเบิดอารมณ์ในครั้งนี้เหมือนเป็นการปลดล็อกของคาโอรุโกะ เธอเข้าไปขอโทษลูกชาย และยอมรับได้ว่าลูกสาวไม่มีทางกลับมาได้อีกแล้ว อิคุโตะก็เลิกอายเรื่องพี่สาว บอกจะชวนเพื่อน ๆ มาเจอพี่ที่บ้าน หลังจากนั้นมิซึโฮะอยู่ต่อได้อีกพักใหญ่ แล้วในคืนหนึ่งคาโอรุโกะก็เห็นลูกสาวมายืนบอกลาที่ข้างเตียง เธอไม่รู้ว่าตาฝาดหรือวิญญาณของมิซึโฮะมาลาจริง ๆ แล้วอาการของลูกสาวก็ดิ่งลงหลังจากนั้น คาโอรุโกะไม่อยากฝืนยื้อลูกสาวต่อไปอีกแล้วจึงยอมให้วินิจฉัยว่ามิซึโฮะสมองตายและบริจาคอวัยวะของลูกสาว

หนังสือเรื่องนี้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยนะ ชื่อภาษาอังกฤษว่า "The House Where the Mermaid Sleeps" ฉายที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2018 เหมือนว่าจะไม่เข้าไทยนะเพราะไม่เคยเห็นผ่านตาเลย

👸 ก็ถือว่าผิดหวังจากนิยายฆาตกรรม แต่มาเจอนิยายดราม่าดี ๆ เล่มหนึ่ง ชื่อของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ ก็ยังการันตีคุณภาพได้เหมือนเดิม


เชิงอรรถ
ผู้เขียน - ฮิงาชิโนะ เคโงะ
ผู้แปล - ธีรัตต์ ธีรพิริยะ
สำนักพิมพ์ - แพรวสำนักพิมพ์
พิมพ์ครั้งแรก - มีนาคม 2562
ความยาว - ปกอ่อน 292 หน้า
คะแนน Goodreads - 3.79